โตโยต้าเชื่อมั่นตลาดยานยนต์ไทยฟื้น คาดตลาดรวมทั้งปีอยู่ที่ 660,000 คัน

227
แชร์ข่าวนี้

อานิสงส์เปิดธุรกิจ-โควิดคลี่คลายเร็ว

นายมิจิโนบุ ซึงาตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด แถลงในฐานะผู้นำตลาดรถยนต์ในประเทศไทยถึงยอดขายรถยนต์รวมทุกประเภทและทุกยี่ห้อในประเทศไทยช่วงครึ่งปีแรกนี้ (ม.ค.-มิ.ย.63) ว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศไทยและระดับโลก ทำให้ตลาดรถยนต์ในประเทศและส่งออกหดตัวในช่วงไตรมาส 1 และต่อเนื่องถึงไตรมาส 2 โดยยอดขายตลาดรถยนต์รวมทุกประเภทและทุกยี่ห้อช่วงครึ่งปีแรกนี้อยู่ที่ 328,604 คัน ลดลง 37.3% เทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้ว ประกอบด้วย ยอดขายจากตลาดรถยนต์นั่ง 119,716 คัน ลดลง 42.0% และตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ 208,888 คัน ลดลง 34.2% สำหรับตลาดรถกระบะ 1 ตัน ในส่วนของโตโยต้าทำยอดขายรถยนต์รวม 94,222 คัน ลดลง 45.1%

“หลังผ่านสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 และการหยุดสายการผลิตเป็นการชั่วคราวไปแล้วนั้น ตลาดรถยนต์ของไทยในช่วงไตรมาสที่ 2 ลดลงไปที่ 128,500 คัน คิดเป็น 49% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยโตโยต้ามียอดขายอยู่ที่ 38,100 คัน หรือคิดเป็น 45% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ในทางกลับกันหากเราพิจารณาถึงยอดจำหน่ายรายเดือนของช่วงไตรมาสที่ 2 จะเห็นได้ว่าตลาดกำลังอยู่ในช่วงค่อยๆฟื้นตัว อันเป็นผลจากการที่รัฐผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ส่งผลให้ผู้บริโภคเริ่มกลับมามีความเชื่อมั่นมากยิ่งขึ้น”

สำหรับตลาดรถช่วงครึ่งปีหลังนี้ นายซึงาตะ กล่าวว่า ผลกระทบธุรกิจยานยนต์ของไทยที่เราได้รับยังถือว่าไม่รุนแรงเท่ากับประเทศอื่นๆ ในอาเซียน และการฟื้นตัวของไทยดูจะรวดเร็วกว่า ดังนั้น แม้เราอาจยังไม่ควรที่จะประเมินสถานการณ์ให้สูงจนเกินไป แต่เห็นว่าแนวโน้มของตลาดรถยนต์ไทยน่าจะไปในทิศทางที่ดี โดยโตโยต้าหวังว่าไทยจะเป็นผู้นำในการฟื้นตัวให้กับทวีปเอเชียในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ นอกจากแนวโน้มเชิงบวกที่เห็นได้จากยอดจำหน่ายรายเดือนแล้ว ไทยยังประสบความสำเร็จในการจัดงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 41 ซึ่งมีผู้สนใจเข้าเยี่ยมชมงานจำนวนมาก และจากสัญญาณบวกเหล่านี้ เราจึงได้ปรับตัวเลขคาดการณ์ยอดขายรถยนต์ในปี 2563 เป็น 660,000 คัน คิดเป็น 65% เทียบกับปีที่ผ่านมา โดยเดิมได้คาดการณ์ตลาดรวมในประเทศ อยู่ที่ 940,000 คัน

“สำหรับโตโยต้า ในช่วงครึ่งปีแรกนั้น เราได้ปรับแผนการดำเนินงานทั้งในส่วนของการผลิตและการขาย เพื่อให้มั่นใจได้ว่ารถยนต์รุ่นใหม่ๆ ของเราสามารถแนะนำออกสู่ตลาดได้ในช่วงเวลาที่เหมาะสม ดังนั้น ในช่วงครึ่งปีหลังจากนี้ เราจะเร่งเดินหน้าทำการตลาดอย่างเต็มที่ โดยมีผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ๆของเราเป็นตัวขับเคลื่อน”

cr. ไทยรัฐ


แชร์ข่าวนี้