เครือข่ายนักศึกษาเผารูป “ลุงตู่-บิ๊กป้อม” หน้าทำเนียบฯ จี้ลาออก-แก้รัฐธรรมนูญ-ยุบสภา

265
แชร์ข่าวนี้

ภาคีนักศึกษาศาลายา เผารูป “ประยุทธ์-ประวิตร” หน้าทำเนียบ จี้ลาออก-เปิดทางแก้รัฐธรรมนูญ ยกเลิก 250 ส.ว. เลือกตั้งใหม่ ด้าน ผบช.น. ไม่ห่วงสถานการณ์ม็อบคนรุ่นใหม่ผุด เชื่อนักศึกษารู้ขอบเขตการชุมนุม แต่หากผิดกฎหมายข้อใดต้องดำเนินคดี

วันนี้ (24 ก.ค.) ภาคีนักศึกษาศาลายา นำโดย นายณวิบูล ชมภู่ ประธานภาคีฯ และ น.ส.อาทิตยา พรพรม แกนนำภาคีฯ จัดกิจกรรม “BURN IN HELL” ที่หน้าทำเนียบรัฐบาล โดยมีการอ่านแถลงการณ์เรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลาออกจากตำแหน่ง และให้แก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2560 เกี่ยวกับการยกเลิก ส.ว. แต่งตั้ง 250 คน รวมทั้งมีการเผารูป พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นเชิงสัญลักษณ์

ทั้งนี้ แกนนำกลุ่มอ่านแถลงการณ์ 5 ข้อ ดังนี้

1. ภายใต้การบริหารนของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ นับตั้งแต่ปี 2557 เศรษฐกิจไทยเติบโตระดับต่ำอย่างต่อเนื่อง และอยู่ท้ายสุดในกลุ่มประเทศอาเซียนด้วยกัน จนกระทั่งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้เศรษฐกิจไทยติดลบ 8% เนื่องจากการส่งออกและการท่องเที่ยวที่ตกต่ำ ในขณะที่สังคมไทยมีความเหลื่อมล้ำกันเป็นอย่างมาก โดยเอื้อประโยชน์ต่อนายทุน ทำให้คนรวยยิ่งรวยยิ่งขึ้น คนจนยากจนมากยิ่งขึ้น

2. รัฐบาลไม่ได้ทำตามนโยบายที่หาเสียงไว้ ในเรื่องของการเพิ่มเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเดือนละ 1,000 บาท เพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำวันละ 425 บาท และเพิ่มเงินเดือนคนจบปริญญาตรีเดือนละ 20,000 บาท การประกันราคาพืชผลการเกษตร ปล่อยให้ชาวนาชาวไร่ล้มละลาย สูญเสียที่ดินทำกิน การไม่ทำตามสัญญาประชาคมเป็นการแสดงให้เห็นถึงความโกหกหลอกลวงของรัฐบาล จึงหมดความชอบธรรมในการบริหารประเทศ

3. การบริหารงานผิดพลาดและการกอบโกยโกงกินจากปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้หน้ากากอนามัยขาดแคลน แต่ปรากฏว่ามีการส่งออกไปต่างประเทศ สร้างความร่ำรวยให้กับธุรกิจผู้จำหน่ายและผลิตหน้ากากอนามัยหลายพันล้านบาท รวมทั้งความอ่อนแอในการปล่อยให้กองทัพบกมีอภิสิทธิ์ในการจัดการแข่งขันชกมวย จนทำให้ไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาดไปในหลายจังหวัด แม้แต่การแพร่ระบาดรอบสองเกิดขึ้นจากการให้อภิสิทธิ์กับกลุ่มทหารและการทูต จนนำเชื้อเข้ามาภายในประเทศ

4. รัฐบาลทำให้ผู้จบการศึกษาปีละ 5 แสนคนตกงาน โดยไม่มีการเยียวยาหรือมีมาตรการประกันรายได้คนว่างงาน ทำให้คนว่างงานมีจำนวนถึง 8 ล้านคน กลายเป็นคนยากจนข้นแค้น การเยียวยาจากรัฐเดือนละ 5,000 บาท ไม่ถ้วนหน้าและเป็นการเลือกปฏิบัติ โดยที่รัฐบาลได้ก่อหนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 57 ของรายได้ประชาชาติอันจะเป็นภาระชดใช้หนี้ให้กับคนรุ่นต่อไปอีก

5. รัฐบาลประยุทธ์ เป็นเผด็จการใช้กฎหมายปราบปรามคุกคามประชาชนที่มีความเห็นแตกต่างจากรัฐบาล ด้วยการปล่อยให้มีการใช้ความรุนแรงโดยมีการอุ้มฆ่าสูญหายไปถึง 9 ชีวิตด้วยกัน และการทำร้ายนักกิจกรรม 3 คน โดยไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้ จึงเป็นอาชญากรรมแห่งรัฐ ใช้กฎหมายคุกคามประชาชน ทำลายสิทธิเสรีภาพของประชาชน เช่น การขยายการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ออกไปยาวนาน และใช้เป็นเครื่องมือคุกคามประชาชน

ขณะที่นายภูมิวัฒน์ แรงกสิวิทย์ ตัวแทนแนวร่วมนวชีวิน ที่ปักหลักอดอาหารประท้วงรัฐบาลเป็นวันที่ 5 บริเวณริมคลองผดุงกรุงเกษม ตรงข้ามรั้วของกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ด้วย ระบุว่า วันนี้เป็นวันแรกที่ตนจะดื่มเฉพาะน้ำโดยงดอาหารทั้งหมด จะทำไปจนร่างกายไม่ไหว และเชื่อว่าจะมีผู้ที่มารับไม้ต่อหากตัวเองทรุดลง โดยจะเรียกร้องจนกว่ารัฐบาลจะลาออกหรือนายกรัฐมนตรีต้องแก้ปัญหาประเทศให้ดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจ ซึ่งจะมีเวทีในช่วงเย็นของทุกวัน โดยมีเพื่อนๆ มานอนเฝ้าในช่วงกลางคืนและปราศรัยย่อย พร้อมยืนยันว่าหากไม่ยอมรับข้อเรียกร้องก็จะยกระดับการประท้วง แต่ยังไม่เปิดเผยว่าจะเป็นวิธีการใด

ด้าน พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ลงพื้นที่ดูแลความสงบเรียบร้อยและกำชับเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติหน้าที่ในช่วงเช้า โดยระบุถึงกระแสการชุมนุมขับไล่รัฐบาลของเยาวชนนักศึกษาขณะนี้และในอนาคตว่า ตนไม่ได้มีความกังวล เพราะเข้าใจว่านักศึกษารู้ขอบเขตของการชุมนุมหรือเคลื่อนไหวดี แต่หากมีอะไรที่ผิดกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ก็จะดำเนินคดีตามกฎหมาย

ขอขอบคุณ
แหล่งที่มา : sanook


แชร์ข่าวนี้