หนักสุดในชีวิต! “แพรวา” เผยถึงช่วงเวลาป่วยโควิด-19 ที่ร้องไห้หนักมาก

206
แชร์ข่าวนี้

รายการ THE SOUND OF HAPPINESS ฟัง x เล่า = ความสุข วาไรตี้ทอล์คและพอดแคสต์เรื่องราวสุขภาพจิตที่สนุกและเข้าใจง่าย โดย ยูนิเซฟ, กรมสุขภาพจิต และ JOOX พาไปรับชมและรับฟังเรื่องราวของนักแสดงวัยรุ่นชื่อดังและศิลปินร้อยล้านวิว เจ้าของเพลง “รักติดไซเรน” อย่าง แพรวา-ณิชาภัทร ฉัตรชัยพลรัตน์ ที่ผ่านเรื่องราวหนักๆ มานับไม่ถ้วน แต่เธอก้าวข้ามผ่านปัญหาเหล่านั้นมาได้อย่างไร และยังสามารถเป็น “แพรวา” ที่สดใส มอบพลังบวกให้กับคนรอบข้างและแฟนๆ ได้อยู่เสมอ 

แพรวา ณิชาภัทร เล่าว่า “หลังจากที่แพรทราบว่าตัวเองติดโควิด-19 จากที่คุณหมอโทรมาแจ้ง วินาทีนั้นหูดับไปเลยค่ะ อย่างแรกเลยคือ เป็นห่วงคุณพ่อคุณแม่ กังวลว่าท่านจะติดเราไหม คิดถึงพี่ๆ และเพื่อนๆ ที่นาดาว ว่าเราเจอใครมาบ้าง แล้วเขาจะติดเราหรือเปล่า รวมไปถึงงานต่างๆ ที่เพิ่งไปทำมาก็เจอคนค่อนข้างเยอะ จำได้ว่าระหว่างนั่งรอรถพยาบาลมารับ ร้องไห้หนักมาก โทรศัพท์คุยกับคุณแม่ ก็พูดซ้ำๆ ว่า หนูไม่รู้ว่าหนูเอาไปติดใครบ้าง ใครจะติดจากหนูบ้าง คุณแม่ก็คอยปลอบใจ ตอนนั้นเราไม่ได้กังวลถึงร่างกายตัวเองเลย เพราะรู้สึกว่าเรายังโอเคอยู่ แต่ห่วงคนอื่นกลัวทำให้เขาต้องเดือดร้อนไปด้วย”

แพรวา ณิชาภัทร

แพรวา ณิชาภัทร

นอกจากนั้นสาวแพรวายังเผยถึงช่วงที่รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลด้วย “ตอนนั้นความรู้สึกกังวล รู้สึกผิด ยิ่งนับวันยิ่งเพิ่มขึ้น ช่วงแรกๆ มีคนทักเข้ามาในช่องทางโซเชี่ยลมีเดียของแพรเป็นจำนวนมาก หลายคนมาให้กำลังใจ บางคนมาถามข้อมูลต่างๆ แต่ก็มีบ้างที่เข้ามาต่อว่า ซึ่งเราก็พยายามอ่านและตอบกลับทุกข้อความ เพราะคิดว่าข้อมูลจากเราอาจจะเป็นประโยชน์กับคนที่ถามบ้างไม่มากก็น้อย การพยายามอ่านทุกข้อความมันเลยเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องอ่านข้อความลบๆ ตอนนั้นเครียดมากเลยค่ะ จำได้ว่าเวลาที่สุดจะกลั้นแล้วอยากร้องไห้จริงๆ ต้องรีบวิ่งไปในห้องน้ำแล้วก้มหน้าร้องไห้ให้น้ำตาไหลลงซิงค์ เพราะอย่างที่ทราบว่าน้ำตาเราคือสารคัดหลั่งอย่างหนึ่ง ตอนนั้นกลัวคุณหมอ คุณพยาบาลที่เข้ามารักษาเราจะติดโควิดไปด้วย แต่พอถึงจุดหนึ่งที่ความเครียดเริ่มส่งผลต่อร่างกาย อาการเราเริ่มทรุด ตอนนั้นเลยบอกกับตัวเองว่าเราต้องหยุดแล้ว ต้องปล่อยวาง หันมาให้เวลากับตัวเองในการฟื้นฟูร่างกายและจิตใจ ใช้โซเชี่ยลให้น้อยลง ซึ่งก็ช่วยเราได้จริงๆ หลังผ่านวิกฤตมาได้ แพรรู้สึกเหมือนตัวเองได้เกิดใหม่ ทำให้รู้เลยว่าชีวิตคนเรา จริงๆ แล้วมันถูกขับเคลื่อนด้วยเอเนอร์จีบวก จากที่เมื่อก่อนเราเคยคิดว่า คนเรามันก็ต้องมีความทุกข์บ้างมันเป็นสีสันของชีวิต แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว เราต้องไดรฟ์ชีวิตด้วยพลังบวก ตอนนี้พยายามเสพอะไรที่เป็น Positive อะไรที่ตลกๆ สนุกๆ และแพรพยายามส่งต่อพลังบวกให้คนอื่นๆ ด้วยค่ะ”

ติดตามชมรายการย้อนหลัง พร้อมฟังพอดแคสต์ รายการ THE SOUND OF HAPPINESS ฟัง x เล่า = ความสุข ได้ทุกวันเสาร์เวลา 10.00 น. ทาง JOOX เท่านั้น  

#TheSoundofHappiness #UNICEFThailand #กรมสุขภาพจิต #JOOX

ขอขอบคุณ
แหล่งที่มา : sanook


แชร์ข่าวนี้