ภาคขนส่งตื่นตัว “คาร์บอนเครดิต” ผลักดันนวัตกรรมโลจิสติกส์สีเขียว

ผศ.ดร. มะโน ปราชญาพิพัฒน์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและบริการวิชาการด้านโลจิสติกส์และซัพพลายเชน วิทยาลัยโลจิสติกส์ และซัพพลายเชน มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา (มร.สส.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆนี้ ทางสถาบันได้ร่วมกับบริษัท เอเชียพลัส อีวี จำกัด หรือ AEV ซึ่งเป็นผู้แทนจำหน่ายยานยนต์พลังงานไฟฟ้า(EV) เชิงพาณิชย์ ของ บริษัท เน็กซ์ พอทย์ จำกัด (มหาชน) และ สถาบันมาตรฐานอังกฤษ (The British Standards Institution 2023 ) หรือ BSI จัดโครงการอบรมให้ความรู้ในหัวข้อ “การจัดการคาร์บอนเครดิต ตามมาตรฐาน ISO 14064-1 , Carbon Trade และ การปรับเปลี่ยนระบบการขนส่งไฟฟ้า หรือ EV transportation” โดยมีผู้แทนหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ผู้แทนจากการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กกท.) สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย บริษัท ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) บริษัท ศรีตรัง โลจิสติกส์ จำกัด บริษัทธนัชวิชญ์ แทรเวล กรุ๊ป จำกัด บริษัท นิ่มซี่เส็งจนส่ง 1988 จำกัด และผู้ประกอบการด้านโลจิสติกส์หลายแห่งเข้าร่วม

s__31252504

s__31252506

ผศ.ดร. มะโน กล่าวว่า ปัจจุบันการซื้อขายคาร์บอนเครดิตถูกนำมาใช้เป็นส่วนหนึ่งของกลไกตลาด เพื่อจูงใจให้ภาคอุตสาหกรรมและผู้ประกอบการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน ซึ่งในส่วนของประเทศไทยได้ตั้งเป้าหมายเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2050 และปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2065 ดังนั้นผู้ประกอบการ โดยเฉพาะภาคการขนส่งจึงจำเป็นต้องเตรียมความพร้อมเกี่ยวกับการจัดการขนส่งโดยระบบ EV transportation และสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักการและวิธีการประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร ให้สามารถจัดทำระบบมาตรฐานการวัดปริมาณและการรายงานผลการปลดปล่อย และลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกในระดับองค์กร ตามแนวทางมาตรฐาน ISO 14064-1:2018 รวมถึงความรู้เกี่ยวกับมาตรการ CBAM (ซีแบม) ซึ่งเป็นมาตรการปรับราคาคาร์บอนก่อนเข้าพรมแดน เพื่อป้องกันการนำเข้าสินค้าที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงเข้ามาในประเทศกลุ่มอียู เพื่อนำความรู้ที่ได้ไปใช้ประโยชน์ในการพัฒนากระบวนการผลิตที่มีความสะอาดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และวิเคราะห์หาแนวทางในการบริหารจัดการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขององค์กรได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพต่อไป

ด้านนายอิทธิวัตร เภาสูตร์ ประธานบริหาร บริษัทเอเซียพลัส อีวี จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯ เล็งเห็นความสำคัญเรื่องนวัตกรรมโลจิสติกส์สีเขียวอย่างมาก จึงร่วมกับสถาบันฯดำเนินโครงการดังกล่าวขึ้น เพื่อให้ผู้ประกอบการได้รับข้อมูลความรู้อย่างถูกต้อง รวมถึงสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้ยานยนต์ EV ที่นอกจากจะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ลอยขึ้นไปทำลายชั้นบรรยากาศแล้ว ยังช่วยลดต้นทุนค่าขนส่งจากการใช้พลังงานไฟฟ้าแทนน้ำมันได้อีก ซึ่งผู้ประกอบการส่วนใหญ่ให้ความสนใจและเริ่มหันมาเปลี่ยนใช้ยานพาหนะ EV เพื่อการขนส่งสินค้ามากขึ้น เนื่องจากมีข้อมูลว่าสามารถนำไปสู่การยื่นขอการรับรองภายใต้โครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานของประเทศไทย (Thailand Voluntary Emission Reduction Program: T-VER) ซึ่งคาร์บอนเครดิต ที่เกิดขึ้นจากโครงการ T-VER สามารถนำประโยชน์ไปใช้ในการชดเชยคาร์บอน ผ่านปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ถ่ายโอนผลการลดก๊าซเรือนกระจกระหว่างประเทศ และนำไปซื้อขายในตลาดคาร์บอนได้

s__31252508

นายอิทธิวัตร กล่าวอีกว่า บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายเป็นที่ปรึกษา EV transportation Solution แบบ Ecosystem ไม่ใช่เพียงแค่ดีลเลอร์ขายรถ EV เท่านั้น แต่ต้องสามารถตอบโจทย์ให้ลูกค้าด้วยการนำเสนอโมเดลที่ช่วยลดต้นทุนและเพิ่มผลกำไรให้กับธุรกิจภาคการขนส่งด้วยมิติใหม่ โดยจะให้คำปรึกษาด้านนวัตกรรมโลจิสติกส์สีเขียว รวมถึงการออกแบบเส้นทางการขนส่งสินค้าอย่างคุ้มค่า ตลอดจนการให้บริการหลังการขายในการจัดทำข้อมูลการใช้งานของรถ EV เชิงพาณิชย์ ทั้งการจัดทำรายงานการแสดงข้อมูลปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยจากการดำเนินงานขององค์กร และการสะสมคาร์บอนเครดิตที่จะนำไปสู่การซื้อขายในอนาคต จะเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่เป็นประโยชน์ในการเพิ่มรายรับให้กับผู้ประกอบการ ที่สำคัญยังเป็นการสนองนโยบายภาครัฐที่จะนำไปสู่เป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศอีกด้วย สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://asiaplusev.com/ หรือเพจเฟสบุ๊ค รถไฟฟ้า ASIA PLUS EV

ขอขอบคุณ
แหล่งที่มา : sanook

อยู่หรือย้าย? “เทน ฮาก” อัพเดตอนาคต “กรีนวู้ด” กับ แมนยู ฤดูกาลหน้า

เอริค เทน ฮาก ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกมาอัพเดตล่าสุดเกี่ยวกับอนาคตของ เมสัน กรีนวู้ด

กรีนวู้ด ไม่ได้ลงเล่นให้ แมนฯ ยูไนเต็ด เลยตลอดฤดูกาล 2022/23 หลังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมเมื่อเดือนมกราคมปีที่แล้ว จากคดีทำร้ายร่างกายแฟนสาว

อย่างไรก็ตามเขาพ้นจากข้อกล่าวหาเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แต่เขายังคงถูกสโมสรแบนแบบไม่มีกำหนด โดยพวกเขายังคงทำการสอบสวนภายในก่อนตัดสินใจว่าจะเก็บหรือปล่อย กรีนวู้ด ออกไป

กระนั้นเมื่อถูกถามถึงสถานการณ์ของหัวหอกวัย 21 ปี เทน ฮาก ตอบกับ เดอะ ไทมส์ ว่า ได้ออกมาเปิดปากถึงอนาคตของดาวยิงอังกฤษอีกครั้งว่า “ผมไม่มีอะไรเพิ่มเติม ทุกอย่างเป็นไปตามแถลงการณ์ของสโมสร”

“เขาแสดงให้เห็นในอดีตว่าเขามีความสามารถที่จะยิงประตูได้ในฐานะกองหน้าของสโมสร แต่ไม่ได้ขึ้นอยู่กับผมที่จะตัดสินใจว่าเขาจะกลับมาเล่นให้กับสโมสรหรือไม่”

ขอขอบคุณ
แหล่งที่มา : sanook

เสียวหมี่ติดท็อป 50 บริษัทที่มีนวัตกรรมมากที่สุด ที่จัดอันดับโดย Boston Consulting

บริษัท Boston Consulting Group (BCG) ได้จัดอันดับให้เสียวหมี่ขึ้นไปอยู่ในอันดับที่ 29 จากการจัดอันดับ “50 บริษัทที่มีนวัตกรรมมากที่สุดแห่งปี 2023” (50 Most Innovative Companies of 2023) ซึ่งขยับสูงขึ้นกว่าปีที่แล้วสองอันดับ

การจัดอันดับนี้มาจากการที่เสียวหมี่ให้ความสำคัญกับนวัตกรรมโดยมีการทุ่มงบการลงทุนรวมถึงการใช้ผู้มีความรู้ความสามารถจำนวนมาก และได้เปลี่ยนการลงทุนนี้ให้เป็นผลลัพธ์อันน่าทึ่ง ในไตรมาสแรกของปีนี้ ค่าใช้จ่ายในการวิจัยและพัฒนา (R&D) ของเสียวหมี่เพิ่มขึ้น 17.7% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งมีมูลค่าสูงถึง 4.1 พันล้านหยวน

โดย ณ วันที่ 31 มีนาคม 2566 จำนวนบุคลากรด้านการวิจัยและพัฒนานั้นมีมากกว่า 16,500 คน ซึ่งเป็นจำนวนมากกว่า 50% ของพนักงานเสียวหมี่ทั้งหมด ความพยายามในการวิจัยและพัฒนาของเสียวหมี่นั้นทำให้บริษัทมีสิทธิบัตรกว่า 32,000 ฉบับทั่วโลก ณ วันที่ 31 มีนาคม 2566 โดยคาดการณ์ว่างบการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาทั้งหมดในปี 2566 จะเกิน 2 หมื่นล้านหยวน

เสียวหมี่นั้นเปิดรับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีอย่างยิ่งยวด ซึ่งรวมไปถึงปัญญาประดิษฐ์ (AI) บริษัทได้ก่อตั้งทีมต้นแบบ AI Lab Foundation (AI Lab Foundation Model team) อย่างเป็นทางการในเดือนเมษายน และมีพนักงานที่เกี่ยวข้องกับ AI มากกว่า 1,200 คน บริษัทจะยังคงขยายโอกาสและสถานการณ์ให้ผู้ใช้งานได้ใช้งานเทคโนโลยี AI ได้มากขึ้น นอกจากนี้ยังจะเพิ่มความสามารถทางเทคโนโลยีอย่างไม่หยุดยั้งและมองหาโอกาสในการร่วมมือกับพันธมิตรต่างๆ ต่อไป

การจัดอันดับบริษัทที่มีนวัตกรรมมากที่สุดของ BCG (BCG’s Most Innovative Companies Ranking) อ้างอิงจากการสำรวจผู้บริหารด้านนวัตกรรมระดับโลกมากกว่า 1,000 คน ซึ่งได้ทำการสำรวจความคิดเห็นในเดือนธันวาคม 2565 และมกราคม 2566 การสำรวจนี้ได้ทำการประเมินประสิทธิภาพของบริษัทในสี่ประเภท ได้แก่ การแบ่งปันความคิดอย่างเป็นสากล (global mindshare) มุมมองจากอุตสาหกรรมเดียวกัน (industry peer view) การปฏิรูปอุตสาหกรรม (industry disruption) และการสร้างมูลค่า (value creation)

BCG มีการเผยแพร่รายงานนวัตกรรมประจำปีตั้งแต่ปี 2546 บริษัทอื่นๆ ที่อยู่ในรายชื่อในปี 2566 ได้แก่ Amazon, Alphabet, Microsoft, Siemens, Pfizer, SpaceX, Nike, IBM เป็นต้น

เสียวหมี่ถือว่าปี 2566 เป็นปีที่สำคัญในการเร่งการเติบโตของเสียวหมี่เป็นอย่างมาก บริษัทยังคงมุ่งมั่นในการเดินหน้าไปสู่กลยุทธ์ใหม่ทางธุรกิจ โดยมุ่งเน้นที่การพัฒนาที่มีคุณภาพสูง ควบคู่ไปกับการแสวงหาความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีอย่างไม่หยุดยั้ง และพันธกิจเพื่อให้ทุกคนในโลกมีชีวิตที่ดีขึ้นผ่านนวัตกรรมเทคโนโลยี

ขอขอบคุณ
แหล่งที่มา : sanook

“ณิชา” วันนี้เซ็กซี่เบาๆ! สวมชุดแหวกอกลึก โฟกัสที่หัวใจเต็มๆ

ดีต่อหัวใจระดับ 10 เต็ม 10 จริงๆ สำหรับลุคล่าสุด! ที่ ณิชา-ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์ นางเอกซุปตาร์ แต่งไปร่วมอีเวนต์ พร้อมกันกับก๊วนเพื่อนซี้คนสนิท

ทั้งนี้ก็เป็นเพราะลุคดังกล่าวนอกจากจะเข้ากันดี๊ดีกับความน่ารักของสาวณิชาแบบสุดๆ แล้ว ในส่วนของสีสัน ดีไซน์ ก็ยังให้บรรดาแฟนคลับต้องร้องว้าว! หนักมากเช่นกัน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับดีเทลของชุดบริเวณหน้าอก ที่แหวกโชว์ผิวขาวอมชมพูให้ได้เห็นกันแบบเบาๆ แต่ก็แอบเบรกความเซ็กซี่ด้วยหัวใจสีฟ้าดวงโตๆ สะดุดสายตา

ซึ่งแน่นอนว่าไม่เพียงแต่จะโกยยอดไลก์จากบรรดาแฟนคลับไปได้ถล่มทลายเท่านั้น แต่ทางฝั่งของเพื่อนๆ ซุปตาร์ ก็ยังเข้ามาสาดคอมเมนต์ชื่นชมลุคสุดปัง! ของ ณิชา ณัฏฐณิชา กันรัวๆ อีกด้วย โอ้โหวววว, สวยแซ่บมากค่ะ, สวยเกาหลีสุดๆ, สวยย, ลุคนี้ดีมากกกก, ออร่ากระจาย ฯลฯ

ขอขอบคุณ
แหล่งที่มา : sanook

ส่องให้ไว! พิธีขอพรท้าวเวสอภิวรรณ สำนักหมอดูเทวดา เลขโผล่ให้เห็นชัดเจนมาก

เปิดเลขธูป-ขันน้ำมนต์ พิธีขอพรท้าวเวสอภิวรรณ สำนักหมอดูเทวดา หลังมีคนถูกหวยติดต่อกันหลายงวด 

วานนี้ (29 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่สำนักหมอดูเทวดา ริมถนนบ้านค่าย-บ้านบึง ต.หนองบัว อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ได้จัดพิธีหลังจากที่ผ่านมามีบรรดาชาวบ้านมาขอพร ขอโชคลาภ แล้วถูกรางวัลใหญ่หลายคน บางคนนำฉโนดมาขอให้ขายที่ดินได้ ก็สำเร็จสมปรารถนา จึงแห่มาเพื่อร่วมพิธี และส่องเลขเด็ด

โดยพบว่ามีบรรดาลูกศิษย์และชาวบ้าน เดินทางมาร่วมพิธีขอพรท้าวเวสอภิวรรณที่ประดิษฐานอยู่ภายในสำนักฯ โดยมี นายนิรุตน์ ลำดับวงศ์ หรือ หมอดูเทวดา (สัมผัสจิต สื่อกรรม) ที่กำลังประกอบพิธีขอพรจากท้าวเวสอภิวรรณ มีการทำพิธีปลุกเสกน้ำมนต์ พร้อมจุดธูปตัวเลข ท่ามกลางบรรดาลูกศิษย์ที่ต่างก็ใจจดใจจ่ออยู่กับขันน้ำมนต์และธูปตัวเลข

หลังจากประกอบพิธีเสร็จ บรรดาผู้เข้าร่วมพิธีต่างก็แห่กันเข้าไปส่องหยดน้ำตาเทียนในขันน้ำมนต์ พบว่าน้ำในขันได้หมุนรอบทั้งที่ขันตั้งอยู่นิ่งๆ สร้างความตื่นเต้นจนขนลุกทั่วทุกคน

โดยหยดน้ำตาเทียนในขันน้ำมนต์ปรากฎเป็นตัวเลข 15 ส่วนเลขธูปทั้งสองธูป ปรากฏเป็นตัวเลข 214 และ 942 ต่างก็ยกมือถือมาถ่ายรูปเก็บไว้ เพื่อนำไปเสี่ยงโชคต่อไป

ด้าน นายนิรุตน์ หรือ หมอดูเทวดา กล่าวว่า สำหรับผู้ที่เดินทางมาขอให้ทุกคนเชื่อในความดีที่ทำ คิดดีทำดีต้องได้ดี ฝากถึงคนที่อยากมีโชคลาภ แนะนำให้หมั่นทำความดี นั่งสมาธิทุกวัน ถ้าเรามีความตั้งใจและศรัทธา ขยันทำมาหากิน แล้วชีวิตจะดีขึ้น ขอให้ทุกคนโชคดี

ส่วนผู้ที่จะเดินทางมาตรวจดวงชะตา ขอให้ติดต่อเข้ามาก่อน เพราะจะรับเพียงวันละ 10 คนเท่านั้น และที่สำนักไม่รับแก้กรรม และสะเดาะเคราะห์

ด้าน ชาวบ้านที่เข้ามาร่วมพิธี ต่างก็ดีใจที่ได้เลขเด็ดไปเสี่ยงโชค เพราะหวังว่าจะโชคดีเหมือนกับผู้ที่เข้าร่วมพิธีในครั้งก่อนๆ ที่หลายคนเคยถูกรางวัล กันหลายงวดมีทั้งรางวัลใหญ่ และประสบความสำเร็จในสิ่งที่ขอพรกับท้าวเวสอภิวรรณ

ขอขอบคุณ
แหล่งที่มา : sanook

พิธา ชูกรุงเทพฯ จัด World Pride 2028 ดันต่อสมรสเท่าเทียม-อัตลักษณ์ทางเพศ

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลและว่าที่นายกรัฐมนตรี ร่วมการแถลงข่าวแคมเปญ The Road to Bangkok Pride 2023 (เดอะ โร้ด ทู แบงคอก ไพรด์ 2023) เตรียมผลักดันให้กรุงเทพมหานครเป็นเจ้าภาพการจัดงานเดินขบวนกลุ่มเพศหลากหลายระดับโลก World Pride (เวิลด์ ไพรด์) ปี 2571 ให้ได้

“วันนี้เรามาร่วมมือร่วมใจระหว่างรัฐบาลชุดใหม่กับทางกรุงเทพมหานคร นำกิจกรรมระดับโลก World Pride มาจัดที่กรุงเทพมหานครในปี 2028 ต่อจากซิดนีย์, วอชิงตัน ดี.ซี. และอัมสเตอร์ดัม ให้จงได้” ว่าที่นายกรัฐมนตรี กล่าว

นอกจากนี้ นายพิธายังมองว่าช่วงเวลาแห่งความภาคภูมิใจของกลุ่มเพศหลากหลายไม่ควรจำกัดอยู่แค่เดือน มิ.ย. หรือที่เรียกว่า Pride Month (ไพรด์ มันธ์) เท่านั้น แต่คือ Pride Always (ไพรด์ ออลเวย์ส)

นายพิธา กล่าวว่า การมาร่วมงานครั้งนี้ ไม่เพียงแต่ต้องการมาเฉลิมฉลอง แต่ยังต้องการสื่อสารกับประชาชนว่าวันที่ 4 มิ.ย. นี้จะมีงาน Bangkok Pride (แบงคอก ไพรด์) เกิดขึ้น

หัวหน้าพรรคก้าวไกล พูดต่อไปว่า ความสำคัญของงานแบงคอก ไพรด์ ไม่ใช่แค่เรื่องเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวเท่านั้น งานดังกล่าวยังเป็นการสร้างความตระหนักรู้ในสังคม ความเป็นคนเท่ากัน ศักดิ์ศรีและสิทธิเสรีภาพของพลเมืองทุกคนต้องเท่ากัน

ส่วนในบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) จัดตั้งรัฐบาล นายพิธา ย้ำว่ามีการกล่าวถึงการสนับสนุนชุมชนเพศหลากหลายไว้ด้วย และพรรคก้าวไกลก็มีร่างกฎหมาย 45 ร่างที่เตรียมเสนอเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรทันที รวมถึง ร่างกฎหมาย 2 ร่างที่เกี่ยวข้องกับความเสมอภาคทางเพศ ได้แก่

  • ร่างแก้ไขประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (สมรสเท่าเทียม)
  • ร่าง พ.ร.บ. รับรองอัตลักษณ์ทางเพศ

“ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่พวกเราจะต้องผลักดันให้ได้ก่อนจะมีการจัดงาน World Pride หรืองานใดๆ ก็แล้วแต่ ก็เพื่อแสดงให้พี่น้องประชาชนเห็นว่าการยอมรับในความหลากหลายคือจุดแข็งของประเทศนี้
มันคือทั้ง Soft Power (ซอฟต์เพาเวอร์) และ Hard Value (ฮาร์ดแวลยู) ด้วย มันคือความเชื่ออันหนักแน่นของสังคมไทยว่า ‘คนเท่ากัน’ ไม่ว่าจะเป็นเพศสภาพ ศาสนา สถานะทางร่างกาย ฯลฯ ถ้าเราทำได้สำเร็จในประเด็นเหล่านี้ การจัดงาน World Pride ที่กรุงเทพฯ ก็จะกลายเป็นเรื่องเล็กน้อยไปเลย” ว่าที่นายกรัฐมนตรีกล่าว ทิ้งท้าย

ขอขอบคุณ
แหล่งที่มา : sanook

“วิโรจน์ ลักขณาอดิศร” อดีตดาวสภาฯ มีทรัพย์สินรวยเบาๆ

รู้จัก “วิโรจน์ ลักขณาอดิศร” นักการเมืองชื่อดังพรรคก้าวไกล และอดีตดาวสภาฯ มีทรัพย์สิน รวยเบาๆ

วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ถือเป็นนักการเมืองของพรรคก้าวไกลที่หลายคนจับตามองไม่น้อย เพราะเคยวิพากษ์วิจารย์รัฐบาลประเด็นการควบคุมข้อมูลข่าวสาร (IO) ทำให้ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร กลายเป็นดาวประจำสภา ซึ่งก่อนที่ “วิโรจน์ ลักขณาอดิศร” จะเข้าสู่สนามการเมือง เขาเคยทำงานภาคเอกชน ที่เกี่ยวของกับงานด้านวิศวกรรม และงานบริหารกับบริษัทเอกชนเกือบ 20 ปี อีกทั้งยังเคยทำเพจเฟซบุ๊กที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาศักยภาพการเรียนรู้ของเยาวชน เพื่อให้ความรู้ในกลุ่มคุณพ่อแม่ ผู้ปกครอง ครู อาจารย์ และเคยรังสรรค์ผลงานด้านหนังสือ เช่น ปูทางให้ลูกไป สู่เส้นชัยที่ลูกหวัง หรือ หลุดจากกับดัก Balanced Scorecard เป็นต้น

สำหรับทรัพย์สินของ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ข้อมูลจาก สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) รายงานทรัพย์สิน และหนี้สิน ของ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร กรณีพ้นจากตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เมื่อวันที่ 4 ก.พ. 65 โดยพบว่านายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร และภรรยา มีทรัพย์สินรวมทั้งสิ้น 52,410,879.09 บาท และหนี้สิน 28,005.82 บาท ซึ่งรายละเอียดมีดังนี้

นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร อายุ 44 ปี แจ้งมีทรัพย์สิน 15,922,905.31 บาท

  • เงินฝาก (9 บัญชี) 1,518,005.84 บาท
  • เงินลงทุน (26 รายการ) 9,480,640.47 บาท
  • ที่ดิน (1 แปลง) 699,000 บาท
  • โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง (ทาวน์โฮม 3 ชั้น 1 หลัง) 2,821,000 บาท
  • ยานพาหนะ (1 คัน) 669,000 บาท
  • สิทธิและสัมปทาน (4 รายการ เป็นลิขสิทธิ์หนังสือ) 200,000 บาท
  • ทรัพย์สินอื่น 535,259 บาท ได้แก่
    • ครอบครองวัตถุมงคลจากการทำบุญ 800 องค์ ประเมินค่าไม่ได้
    • พระบูชา 5 องค์พร้อมโต๊ะหมู่บูชา
    • เครื่องใช้ภายในบ้าน ห้องนั่งเล่น ห้องครัว ห้องนอน
    • สร้อยคอทองคำ 5 บาท 1 เส้น
    • สร้อยคอทองคำ 6 สลึงพร้อมพระเลี่ยมทอง 1 เส้น
    • แหวนทองคำ 1 สลึง 2 วง นาฬิกา 2 เรือน (Casio และ Ellesse)
    • กล้องถ่ายรูป Panasonic Lumix LX5
    • คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค
    • โทรศัพท์มือถือ Samsung Galaxy A52 5G

หนี้สิน 12,569.26 บาทจากเงินเบิกเกินบัญชี

น.ส.ดุสิตา จีรจิตต์ อายุ 42 ปี อยู่กินกันฉันสามีภริยา แจ้งมีทรัพย์สิน 36,487,973.78 บาท

  • เงินฝาก (18 บัญชี) 8,051,213.30 บาท
  • เงินลงทุน (4 รายการ) 314,650.48 บาท
  • ที่ดิน (6 แปลง ทั้งหมดอยู่ใน จ.สระบุรี) 23,882,250 บาท
  • ยานพาหนะ (1 คัน) 429,000 บาท
  • สิทธิและสัมปทาน (9 รายการ เป็นผลงานภาพวาดอิเล็กทรอนิกส์ผ่านช่องทางต่างๆ) ภาพวาด 3,179,500 บาท
  • ทรัพย์สินอื่น 631,360 บาท ได้แก่
    • แจ้งครอบครอง สร้อยคอทองคำ ต่างหู แหวนเพชร ทองคำแท่ง กำไลข้อมือ หลายรายการ รวมถึงนาฬิกา 2 เรือน (Tag Heuer และ Seiko) กล้องถ่ายรูป Elympus PEN EP-5 Macbook Pro จอ 13 นิ้ว iPhone SE 128 GB iPad Gen 7 128 GB

หนี้สิน 15,436.56 บาทจากเงินเบิกเกินบัญชี

มีบุตรที่เกิดจากบิดามารดาที่มิได้จดทะเบียนสมรส แต่บิดาได้แสดงออกหรือรับรองโดยอุปการะเลี้ยงดู ให้การศึกษา ดูแลรักษาพยาบาล แสดงออกต่อสังคมไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมว่าเป็นบุตร จำนวน 1 คน อายุ 7 ปี แจ้งมีทรัพย์สิน 7,703.42 บาท จากเงินลงทุน

นายวิโรจน์ แจ้งมีรายได้ต่อปี 1,717,596.94 บาท

  • เงินเดือน และ เงินเพิ่ม ส.ส. 1,362,720 บาท
  • เงินปันผลจจากหุ้น 81,515 บาท
  • ดอกเบี้ย 10,000 บาท
  • ค่าเขียนหนังสือและวิทยากร 6,561.94 บาท
  • ค่าเบี้ยประชุม 256,800 บาท

แจ้งมีรายจ่าย 700,000 บาท

  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัว 500,000 บาท
  • ค่าอุปการะมารดา 200,000 บาท

ภรรยา แจ้งมีรายได้ต่อปี 392,491.66 บาท

  • เงินปันผลจากหุ้น 3,185 บาท
  • ดอกเบี้ย 37,306.66 บาท
  • ขายภาพวาดอิเล็กทรอนิกส์ 352,000 บาท

มีรายจ่าย 300,000 บาท จากค่าใช้จ่ายส่วนตัว

บุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ แจ้งมีรายจ่าย 220,000 บาท

  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัว 100,000 บาท
  • ค่าเล่าเรียนบุตร 120,000 บาท

นายวิโรจน์ แจ้งเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในรอบปีภาษีที่ผ่านมา ระบุ เงินได้พึงประเมิน ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 40 (1) – (8) จำนวน 1,366,844.72 บาท ภรรยา 293,287.91 บาท

ขอขอบคุณ

ภาพ :FB: wirojlak

ขอขอบคุณ
แหล่งที่มา : sanook

“เป๊ป” รับต้องปาดเหงื่อ แมนฯ ซิตี้ เจอปัญหาตัวเจ็บก่อนชิง 2 ถ้วย

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า นายใหญ่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยอมรับเวลานี้ทีมตนกำลังต้องเผชิญปัญหา นักเตะบาดเจ็บหลายราย ก่อนหน้าลงเล่นนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลถ้วย 2 รายการ ที่เป็นบทสรุปของเป้าหมาย “ทริปเปิ้ลแชมป์” ฤดูกาลนี้

แมนฯ ซิตี้ จะชิงถ้วย เอฟเอ คัพ กับคู่อริร่วมเมือง แมนฯ ยูไนเต็ด วันเสาร์ 3 มิ.ย. นี้ที่สนามเวมบลีย์ จากนั้น เสาร์ 10 มิ.ย. จะลงสาดแข้งกับ อินเตอร์ มิลาน ในนัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2023 ที่ อตาเติร์ก โอลิมปิก สเตเดี้ยม นครอิสตันบูล ประเทศตุรกี

เป๊ป เผยหลังเกมปิดซีซั่นที่จัดทัพสำรองและดาวรุ่งออกไปแพ้ เบรนท์ฟอร์ด 0-1 เมื่อวันอาทิตย์ ว่า ณ ตอนนี้มีลูกทีมประมาณ 3-4 รายที่ต้องจัดการกับปัญหาบาดเจ็บ ก่อนนัดชิงชนะเลิศ 2 รายการสำคัญ

“เรามีนักเตะ 4-5 คนที่มีปัญหา มันไม่ใช่อาการบาดเจ็บใหญ่โต แต่ก็ถือว่าพวกเขาบาดเจ็บ” กวาร์ดิโอล่าชี้แจง “คนที่ไม่พร้อมเล่น ไม่ได้อยู่ที่นี่ พวกเขาอ่อนล้ากันมากจริงๆ โดยเฉพาะเรื่องสภาพจิตใจ พวกเขาเหนื่อยล้าเต็มที”

“บางคนถูกทิ้งไว้ที่แมนเชสเตอร์ เช่น รูเบน ดิอาส ที่ไม่ได้ซ้อมมานับสิบวัน หรือ แจ๊ค กรีลิช ก็เช่นกัน ส่วน เควิน เดอ บรอยน์ หลังเกมกับไบรท์ตัน เขารู้สึกแบบเดียวกับเมื่อหลายสัปดาห์ก่อน ที่เขาไม่สามารถลงเล่นได้ 2-3 เกม”

“มันไม่ใช่ปัญหาใหญ่ ผมคิดว่าพวกเขาทั้งหมดจะพร้อม พวกเขาต้องพร้อมสำหรับการฝึกซ้อม และผมจะได้เห็นพวกเขาในอีก 3 วัน และนั่นคือเหตุผลว่าทำไมวันนี้จึงสำคัญมากที่จะได้เห็นนักเตะที่มีอยู่ และรู้ว่าพวกเขาเป็นอย่างไร”

“ในการเล่นรอบชิงชนะเลิศ เราต้องใช้คนที่พร้อมกว่า ไม่ใช่เพราะพวกเขาเล่นมาเยอะในช่วงที่ผ่านมา นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมมันจึงเป็นเรื่องดีที่บางคนได้เล่นในวันนี้ และคนอื่นๆ ได้พัก นาธาน อาเก้ กลับมาแล้วหลังได้รับบาดเจ็บ อายเมอริค ลาป๊อร์กต์ ก็กลับมาพร้อมลงเล่น 90 นาทีอีกครั้ง”

“โชคไม่ดีสำหรับ ไคล์ วอล์คเกอร์ ที่ผมไม่สามารถให้เวลาพักกับเขาได้ เพราะเราไม่มีตัวสำรองมากนัก แต่ตอนนี้พวกเขาจำเป็นต้องพักผ่อนกันแล้ว เพื่อให้ได้กลับมาพร้อมกับพลังงานที่เหมาะสม เตรียมพร้อมสำหรับ แมนฯ ยูไนเต็ด และหลังจากนั้นในแชมเปี้ยนส์ ลีก”

ขอขอบคุณ
แหล่งที่มา : sanook

ไมโครซอฟท์เผยผลวิจัยล่าสุด ชี้ AI เปลี่ยนบทบาทการทำงานในยุคใหม่

หลังจากที่ได้เปิดตัวบริการ Microsoft 365 Copilot ไปเมื่อต้นปีนี้ เพื่อนำความสามารถของ AI อันทรงพลังมาเสริมศักยภาพของแอปพลิเคชันที่มีผู้ใช้หลายล้านคนในทุกวันอย่าง Microsoft Word, Excel, PowerPoint, Outlook, Microsoft Teams และอื่นๆ อีกมากมาย

ไมโครซอฟท์ได้ประกาศเดินหน้าขยายให้ลูกค้าทั่วโลกได้มีโอกาสทดลองใช้งาน Microsoft 365 Copilot กันมากขึ้น และยังได้ถือโอกาสนี้เปิดเผยข้อมูลเชิงลึกจากงานวิจัย Work Trend Index ฉบับล่าสุดประจำปี 2023 ที่เจาะลึกถึงมุมมองเกี่ยวกับความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในชีวิตการทำงานยุค AI  ภายใต้หัวข้อ Will AI Fix Work?

msft_wti-annual_hero

รายงาน Work Trend Index 2023 นี้ รวบรวมข้อมูลจากการสำรวจพนักงานและผู้บริหารกว่า 31,000 คนในอุตสาหกรรมต่างๆ ครอบคลุม 31 ประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยและตลาดอื่นๆ อีก 13 แห่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก  และยังประมวลข้อมูลที่เก็บรวบรวมมานับล้านล้านรายการจากอีเมล การประชุมออนไลน์ และระบบแชทใน Microsoft 365 รวมทั้งแนวโน้มตลาดแรงงานจาก LinkedIn โดยข้อมูลเหล่านี้บ่งชี้ว่าการทำงานในปัจจุบันต้องการความรวดเร็วในระดับที่เกินกว่าพนักงานจะตามทัน ซึ่งส่งผลกระทบต่อความสามารถของพวกเขาในการสร้างสรรค์นวัตกรรมให้กับองค์กร ดังนั้น เทคโนโลยี AI รุ่นใหม่ๆ จะเข้ามาช่วยแก้ปัญหานี้ได้ และองค์กรที่ริเริ่มนำ AI มาใช้จะช่วยให้พนักงานหลุดออกจากวงจรการทำงานแบบเดิมๆ มีเวลาไปใช้ความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น และทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นไปพร้อมกัน

สุภาณี อนุวงศ์วรเวทย์ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานการตลาดและปฏิบัติการ ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย กล่าวว่า “การมาถึงของ AI ส่งผลให้วิธีการทำงานของเราต้องเปลี่ยนไปในทุกด้าน จากเดิมที่มีระบบอัตโนมัติทั่วไปในการทำงาน มาเป็นระบบผู้ช่วยที่ทำงานร่วมกับมนุษย์ได้อย่างชาญฉลาด ทำให้พนักงานหลุดพ้นจากสิ่งที่เรียกว่า ‘Digital Debt’ หรือภาระงานที่เกิดขึ้นจากการโต้ตอบกันทางอีเมล แชท และประชุม จนไม่สามารถไปคิดค้นนวัตกรรมใหม่ขึ้นมาได้”

“ในเมื่อการทำงานเปลี่ยนไปเพราะ AI คนทำงานก็ต้องพัฒนาตนเองให้เท่าทันเช่นกัน พนักงานส่วนใหญ่ในประเทศไทยมองว่า AI เป็นสิ่งที่ดีสำหรับพวกเขา โดยรายงาน Work Trend Index 2023 ระบุว่าพนักงานไทยถึง 86% ยินดีที่จะมอบหมายให้ AI ทำงานแทนให้ได้มากที่สุดเพื่อลดภาระงานลง ดังนั้น ผู้บริหารในยุคนี้จึงมีทั้งโอกาสและแรงผลักดันให้ต้องเร่งทำความเข้าใจวิธีใช้ประโยชน์จาก AI เพื่อลดความจำเจในการทำงาน ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ และยกระดับความเชี่ยวชาญด้าน AI ไปพร้อมๆ กัน” คุณสุภาณีกล่าวเสริม

รายงาน Work Trend Index 2023 ชี้ให้ผู้นำธุรกิจเห็นถึงข้อสรุปที่สำคัญ 3 ประการใหญ่ๆ ในการทำความเข้าใจและนำ AI มาใช้ในองค์กรอย่างถูกต้องเหมาะสม

“Digital Debt” ยับยั้งการสร้างนวัตกรรมใหม่: พนักงานทุกคนล้วนมีภาระในโลกดิจิทัลของที่ทำงาน เพราะเรามีข้อมูล อีเมล และแชทปริมาณมหาศาลตลอดวันจนไม่สามารถรับรู้หรือเข้าใจได้ในทุกส่วน ดังนั้น เราจึงเล็งเห็นโอกาสในการทำให้การสื่อสารมีประสิทธิผลมากขึ้น เพราะยิ่งเสียเวลาไปกับภาระ digital debt เหล่านี้มากเท่าไร ก็ยิ่งทำให้พนักงานไม่มีเวลาใช้ความคิดสร้างสรรค์มากขึ้นเท่านั้น พนักงานในประเทศไทย 89% รู้สึกว่าพวกเขาไม่มีเวลาและพลังงานมากพอที่จะทำงานให้เสร็จ และคนกลุ่มนี้ก็มีโอกาสสูงที่จะเจอกับอุปสรรคเมื่อต้องลงมือสร้างสรรค์นวัตกรรมด้วยตัวเอง ขณะที่ข้อมูลเวลาทำงานใน Microsoft 365 ชี้ว่าโดยเฉลี่ย พนักงานใช้เวลาทำงาน 57% ไปกับการติดต่อประสานงาน และเพียง 43% ในการสร้างสรรค์ชิ้นงานขึ้นมา ส่วนอุปสรรคอันดับหนึ่งที่ขัดขวางประสิทธิผลในการทำงานก็คือการประชุมที่ไร้ประสิทธิภาพ

AI พร้อมเป็นพันธมิตรคู่ใจคนทำงาน: พนักงานส่วนใหญ่ให้ความสนใจกับบทบาทของ AI ในการแบ่งเบาภาระงาน มากกว่าที่จะกังวลว่าตนเองจะถูกแทนที่จนตกงาน ส่วนผู้บริหารส่วนใหญ่ก็มีความตั้งใจที่จะนำ AI มาสนับสนุนพนักงานให้ทำงานได้ดีขึ้น แทนที่จะนำมาทำงานแทนมนุษย์ สำหรับในประเทศไทย เราพบว่า 66% ของพนักงานที่เข้าร่วมการสำรวจยังมีความกังวลว่าจะถูก AI แย่งงาน แต่ก็มีถึง 86% ที่พร้อมจะแบ่งงานให้ AI ช่วยให้ได้มากที่สุดเพื่อแบ่งเบาภาระงาน นอกจากนี้ พนักงานไทยราว 9 ใน 10 คนมั่นใจว่าพร้อมแบ่งงานที่ซับซ้อน เช่นการวิเคราะห์ข้อมูลหรือสร้างสรรค์ชิ้นงานใหม่ๆ ให้ AI เข้ามาช่วยทำ โดยไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่งานเอกสารหรือธุรการทั่วไป ส่วนในระดับผู้บริหาร พบว่ามีกลุ่มที่สนใจนำ AI มาใช้เสริมประสิทธิภาพในที่ทำงานเป็นจำนวนที่สูงกว่ากลุ่มที่มุ่งลดจำนวนพนักงานด้วย AI ราวหนึ่งในสาม

พนักงานทุกคนต้องเชี่ยวชาญ AI: พนักงานทุกคนจะต้องเรียนรู้ความสามารถในด้านใหม่ๆ เช่น การวางโครงสร้างและเขียนคำสั่งสำหรับ AI (prompt engineering) แทนที่จะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้าน AI เท่านั้น ผู้บริหารในไทยกว่า 90% คาดว่าพนักงานจะต้องเรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ ในยุค AI ขณะที่พนักงานไทย 86% ระบุว่าพวกเขา ยังขาดความสามารถที่เหมาะสมในการทำงานให้สำเร็จ ดังนั้น จึงคาดการณ์ได้ว่าทักษะใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับความเชี่ยวชาญด้าน AI จะเป็นที่ต้องการอย่างมากในตลาดแรงงาน พร้อมส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง นับตั้งแต่แนวทางการเขียนเรซูเม่ไปจนถึงประกาศรับสมัครงาน

ในโอกาสนี้ ไมโครซอฟท์ได้ประกาศโครงการ Microsoft 365 Copilot Early Access เพื่อให้ลูกค้าในกลุ่มองค์กรขนาดใหญ่ 600 รายทั่วโลกได้มีโอกาสใช้งาน AI ในภาคธุรกิจ นอกจากนี้ ไมโครซอฟท์ยังได้เพิ่มความสามารถใหม่ๆ ให้กับ Microsoft 365 Copilot และ Microsoft Viva ดังต่อไปนี้

  • Copilot ใน Whiteboard จะช่วยให้การประชุมและระดมความคิดผ่าน Microsoft Teams เป็นไปอย่างสร้างสรรค์และมีประสิทธิภาพมากขึ้น คุณสามารถถาม Copilot ให้ช่วยเสนอแนวคิด จัดระบบไอเดียต่างๆ ให้เป็นกลุ่มชัดเจน สร้างสรรค์งานออกแบบที่สะท้อนถึงแนวคิดนั้นๆ และสรุปเนื้อหาที่เขียนลงใน Whiteboard ได้
  • เพิ่มระบบสร้างรูปภาพ DALL-E ของ OpenAI ใน Copilot ของ PowerPoint เพื่อให้ผู้ใช้สามารถขอให้ Copilot สร้างสรรค์ภาพใหม่ๆ ขึ้นมาประกอบกับเนื้อหาในหน้าสไลด์
  • Copilot ใน Outlook มาพร้อมคำแนะนำในการเขียนอีเมลให้มีเนื้อหาชัดเจน พร้อมด้วยน้ำเสียงและอารมณ์ที่เหมาะสม เพื่อการสื่อสารอย่างมั่นใจและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
  • Copilot ใน OneNote พร้อมรับคำสั่งมาช่วยร่างแผน เสนอแนวคิด สร้างรายการ และจัดระเบียบข้อมูล เพื่อช่วยให้ลูกค้าเข้าถึงสิ่งที่ต้องการได้ง่ายขึ้น

Copilot ใน Viva Learning ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถสร้างแผนการเรียนรู้ที่ตอบโจทย์ของตนเองมากที่สุด ผ่านการสนทนากับ AI โดยระบบนี้จะรองรับทั้งการวางโครงสร้างหลักสูตรเพื่อเพิ่มพูนทักษะ การค้นหาแหล่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับบทเรียน หรือแม้แต่การจัดตารางเวลาฝึกอบรมตามที่ได้รับมอบหมาย

istock-1469747610

และเพื่อให้ทุกองค์กรมีความพร้อมในการใช้งาน AI มากยิ่งขึ้น ไมโครซอฟท์ยังได้พัฒนาระบบ Semantic Index for Copilot ที่เริ่มเปิดให้ลูกค้า Microsoft 365 E3 และ E5 ทุกรายได้ใช้งาน โดยระบบนี้สามารถทำความเข้าใจกับระบบข้อมูลและโครงสร้างบุคลากรขององค์กร เพื่อประกอบเป็นข้อมูลที่ช่วยให้ AI ใน Microsoft 365 Copilot เข้าใจคำสั่งที่ได้รับอย่างชัดเจน และนำเสนอคำตอบหรือผลงานที่ถูกต้อง เหมาะสม พร้อมใช้งานกว่าที่เคย

นอกเหนือจากความสามารถใหม่ๆ ทั้งหมดนี้แล้ว ไมโครซอฟท์ยังได้ประกาศเปิดตัวคุณสมบัติเพิ่มเติมที่ขับเคลื่อนด้วย AI ในงาน Build 2023 ดังนี้

  • Bing Chat, Microsoft 365 Copilot และบริการ AI copilot อื่นๆ จะรองรับมาตรฐานแบบเปิดสำหรับปลั๊กอินในรูปแบบเดียวกับ ChatGPT ของ OpenAI เช่นในกรณีของ Microsoft 365 Copilot ที่สามารถทำงานร่วมกับปลั๊กอินได้ในสามประเภทหลักๆ ได้แก่ ส่วนขยายสำหรับการใช้งานแบบข้อความทาง Microsoft Teams, ตัวเชื่อมต่อกับ Power Platform และปลั๊กอินอื่นๆ ของ ChatGPT รวมถึงปลั๊กอินจากพันธมิตรของไมโครซอฟท์อย่าง Atlassian, Adobe และอื่นๆ
  • Windows Copilot จะทำให้ Windows เป็นแพลตฟอร์มแรกบนพีซีที่พร้อมมอบระบบผู้ช่วย AI แบบรวมศูนย์ ช่วยให้ผู้ใช้ทำงาน ปรับแต่งการตั้งค่า และเชื่อมต่อกับแอปโปรดของคุณได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น ทั้งยังรองรับปลั๊กอินเช่นเดียวกับ Bing Chat และ ChatGPT
  • Microsoft Fabric เป็นแพลตฟอร์มการวิเคราะห์ข้อมูลแบบครบวงจรที่จะช่วยให้องค์กรปลดล็อกศักยภาพของข้อมูลและวางรากฐานสำหรับยุคแห่ง AI ขณะที่ Azure AI Studio ช่วยให้นักพัฒนาสามารถนำโมเดล AI มาทำงานร่วมกับข้อมูลของตนเองหรือองค์กรได้อย่างรวดเร็ว เพื่อสร้างประสบการณ์และความเข้าใจในข้อมูลที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Official Microsoft Blog, Microsoft 365 Blog, รายงานดัชนีแนวโน้มการทำงานปี 2023 หรือ Work Trend Index และศูนย์ข้อมูลข่าวสารจากงาน Build 2023

ขอขอบคุณ
แหล่งที่มา : sanook

“วี วีรภาพ” งวดนี้เอาจริง! ซื้อจัดหนัก 4 ชุดเน้นๆ โชว์เลขเด็ดให้เห็นชัดๆ

มีคอนเทนต์มาให้บรรดาคอหวยได้หูตาลุกวาวกันอีกแล้ว สำหรับ วี-วีรภาพ สุภาพไพบูลย์  นักแสดงหนุ่มชื่อดัง 42 ปี

เมื่อล่าสุดเจ้าตัวได้แชร์ภาพถ่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือสลากลอตเตอรี่ งวดประจำวันที่ 1 มิถุนายน 2566 ให้แฟนๆ ที่ติดตามอินสตาแกรม @weraparp ส่องกันแบบเน้นๆ ก่อนถึงวันออกรางวัล พร้อมกับระบุแคปชั่นสั้นๆ แต่ชัดเจนว่า “ลงทุน 800 บาท”

โดยเลขเด็ดเลขปังที่ วี วีรภาพ เลือกมาก็คือ 262126, 468862, 769672 และ 153945 ทั้งหมด 8 ใบ แบ่งออกมาเป็นจำนวน 4 ชุด

ซึ่งแน่นอนว่างานนี้นอกจากจะถูกอกถูกใจบรรดาแฟนคลับจนต้องเข้ามากดไลก์รัวๆ พร้อมกับอวยพรให้ วี วีรภาพ คว้ารางวัลใหญ่เข้ากระเป๋าแล้ว ทางฝั่งของคอหวยก็ไม่พลาดเช่นกันที่จะเก็บเอาเลขดังกล่าวไปเป็นแนวทางในการเสี่ยงโชคลุ้นดวงของตัวเองด้วย

ขอขอบคุณ

ภาพ :weraparp

ขอขอบคุณ
แหล่งที่มา : sanook