ททท.เสนอหยุดยาวช่วง 12 ส.ค.เล็งขยายเวลา “เราเที่ยวด้วยกัน” หลังคนใช้สิทธิน้อย

ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ภายในเดือน ส.ค. 2563 ททท.จะมีการหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสรุปแนวทางว่าจะมีการขยายระยะเวลาโครงการ หรือ เพิ่มสิทธิพิเศษในโครงการ ‘เราเที่ยวด้วยกัน’ หรือไม่ จากเดิมที่จะสิ้นสุดโครงการในวันที่ 31 ต.ค. 2563 หลังจากเปิดให้ประชาชนได้ใช้สิทธิตั้งแต่วันที่ 18 ก.ค. 2563 แต่พบว่า ว่ามีการใช้สิทธิในโครงการประมาณ 3 แสนห้อง และเช็กอินไปประมาณ 5 หมื่นห้อง จากเพดานกำหนดอยู่ที่ 5 ล้านสิทธิ

โดยเบื้องต้นมองว่าจะมีความเป็นไปได้ที่จะขยายระยะเวลาออกไป รวมไปถึงการเพิ่มสิทธิพิเศษให้กับผู้ร่วมโครงการได้มากขึ้น เนื่องจากการใช้สิทธิในโครงการที่น้อยอยู่อาจจะทำให้ยังมีเงินเหลือที่จะดำเนินการต่อได้ ทั้งนี้ คาดว่าภายในเดือนนี้จะได้ข้อสรุปทั้งหมด ก่อนเสนอให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือ สภาพัฒน์ พิจารณาก่อนนำเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติในลำดับต่อไป

“มีโอกาสเยอะ เพราะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พูดชัดเจนว่าจะต้องมีเฟสต่อไป เพราว่าดูจากงบประมาณน่าจะมีเหลือ เพราะตอนนี้ค่าห้องที่ใช้บริการแล้วตกไม่เกิน 3,000 บาท จากเดิมที่เราตั้งเป้าไว้ 7,500 บาท เราช่วย 3,000 บาท แสดงว่ายังมีงบประมาณเหลือ คงต้องมาปรับและอาจจะเป็นไปได้ว่าจะขยายเวลาให้มากขึ้น หรือให้สิทธิประโยชน์เพิ่มเติม เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล” ยุทธศักดิ์ กล่าว

ส่วนแพ็กเกจ “กำลังใจ” ที่รัฐบาลให้สิทธิอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) อาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร (อสส.) และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) รวมกว่า 1.2 ล้านคน ท่องเที่ยว 2 วัน 1 คืน ฟรี มูลค่า 2,000 บาทต่อคนที่ให้สิทธิ ที่ขยายระยะเวลาให้บริษัทนำเที่ยวได้เข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น จากเดิมที่หมดเขตตั้งแต่วันที่ 25 ก.ค. 2563 ไปจนถึง 5 ส.ค. 2563 ขณะนี้พบว่ามีผู้ประกอบการสมัครเข้ามาเพิ่มมากกว่า 1,000 รายแล้ว จากเดิมอยู่ที่ 986 ราย

ทั้งนี้ ททท. อยากให้มีการหยุดยาวเพิ่มขึ้นในช่วงวันที่ 12 ส.ค. 2563 เพราะยังเหลือวันหยุดที่เลื่อนมาจากช่วงเทศกาลสงกรานต์อีก 2 วัน เนื่องจากที่ผ่านมาข้อมูลชี้ให้เห็นว่าพฤติกรรมการเดินทางท่องเที่ยวคนประชาชนส่วนใหญ่เดินทางท่องเที่ยวก็ยังเน้นวันหยุดยาวเป็นเรื่องสำคัญ หากสามารถมีวันหยุดยาวศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ได้ก็จะช่วยเพิ่มปริมาณการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ และสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น แต่จะดำเนินการอย่างไร ก็ขึ้นอยู่กับนโยบาย ครม.จะเป็นผู้พิจารณา

ส่วนความคืบหน้า Travel Bubble เพื่อเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ยังต้องพิจารณาในประเด็นสำคัญหลายด้าน โดยเฉพาะมาตรการด้านสาธารณสุข การป้องกันไม่ให้เกิดระบาดรอบที่ 2 รวมไปถึงข้อกังวลและความสบายใจของคนในประเทศด้วย ดังนั้นมาตรการข้างต้นจึงจะยังไม่สรุปในเร็วๆ นี้

ขอขอบคุณ
แหล่งที่มา : sanook

ครูเผยวงจรปิด 2 นักเรียนชายแอบวิ่งออกนอกโรงเรียน พอรู้สาเหตุถึงกับซึ้ง

หนูน้อยสองคนหวิดโดนดุ หลังวิ่งออกนอกโรงเรียนช่วงพักกลางวัน พอรู้เหตุผลว่าเอาข้าวและน้ำดื่มไปให้คนร่อนเร่ ครูถึงกับพูดไม่ออก

(3 ส.ค.) กลายเป็นโพสต์ที่ถูกแชร์ไปทั่วโลกออนไลน์ หลังจากผู้ใช้เฟซบุ๊ก ครูเปี๊ยก บ้านใหม่ ซึ่งเป็นครูที่โรงเรียนบ้านใหม่สุขเกษม ตำบลบ้านใหม่สุขเกษม อำเภอกงไกรลาศ จังหวัดสุโขทัย ได้แชร์คลิปวิดีโอภาพจากกล้องวงจรปิดหน้าโรงเรียน หลังจากเห็นเด็กนักเรียนชายสองคนวิ่งออกจากโรงเรียนช่วงพักกลางวัน แต่หลังจากทราบเหตุผลว่าเด็กๆ เอาข่าวออกไปให้คนเร่ร่อน คุณครูจึงแสดงความชื่นชมออกมา

โดย ครูเปี๊ยก บ้านใหม่ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า “เกือบแล้ว พุ & น๊อต วันนี้ทำหน้าที่ครูเวรช่วงพักกลางวันกำลังเดินดูนักเรียนเล่นอยู่กลางสนามฟุตซอล อยู่ๆ เห็นนักเรียนสองคนวิ่งออกไปนอกประตูโรงเรียนไปที่ศาลาข้างถนนใหญ่ เห็นไกลๆ ก็จำได้นายพุ นายน๊อต แน่ๆ รีบให้เพื่อนนักเรียนไปตามกลับมาด่วน ในใจนึกต้องทำโทษให้เข็ดเจ้าสองคนนี่ ผิดระเบียบ เป็นอะไรขึ้นมาครูเดือดร้อนนะ

สองคนมาถึง ครูเสียงดุเข้ม “ออกไปนอกโรงเรียนทำไม รู้ไหมผิดระเบียบ เป็นอะไรไปใครเดือดร้อน พ่อ แม่ ครูฯลฯ” ยาวไปหลายนาที ยังไงว่ามา

น๊อต ตอบแบบติดอ่าง “เอาๆ ข้าวไปให้คนที่ศาลาครับ”

ครู เสียงดัง “ญาติเราหรือไงต้องเอาออกไปให้ ทำไมไม่มาเอาเอง”

พุ ตอบ “เอาข้าวกับน้ำไปให้คนที่ศาลาครับ เห็นเขาเอาถุงตักน้ำข้างถนนกิน ผมสงสารเลยให้น๊อตไปซื้อข้าวมันไก่กับน้ำที่ห้องสหกรณ์มาให้เขาครับ”

ครูดันพูดไม่ออกตั้งใจจะทำโทษเต็มที่ เจอแบบนี้ปรับตัวหาคำพูดชื่นชมไม่ทันเลย “สรุปเด็ก ๆ เอาข้าวและน้ำดื่มไปให้คนร่อนเร่” นายสองคนหล่อมาก พุ น๊อต เกือบแล้ว ครู

ทั้งนี้ โพสต์ดังกล่าวมีคนเข้ามาแสดงความชื่นชมนักเรียนทั้งสองคนมากมาย แต่ก็ฝากให้คุณครูเตือนว่าครั้งต่อไปให้แจ้งผู้ใหญ่ก่อน เพื่อความปลอดภัยของเด็กๆ เอง

ขอขอบคุณ

ข้อมูล :เฟซบุ๊ก ครูเปี๊ยก บ้านใหม่

แหล่งที่มา : sanook

“หนุ่ม กรรชัย” งัดหลักฐานฟาด “เจนนี่” ยืนยันจ่ายหลักหมื่น ทำไม “น้องเก้า” ได้แค่ 500

“เก้า เกริกพล” จวกแหลก “เจนนี่” คืนคำเรื่องสัญญา ลั่นให้เงินเป็นล้านจบเรื่องก็ไม่เอา เรื่องไกลเกินเคลียร์กันแล้ว “หนุ่ม” งัดหลักฐานโชว์สดๆ เรื่องค่าตัว ไม่ได้สะตอ

กรณีดรามาที่ยังไม่จบ หลังจากที่ “เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น” หรือ “รัชนก สุวรรณเกตุ” ไลฟ์ชี้แจงว่าไม่ได้โกงเงินค่าตัว “เก้า เกริกพล เพชรรัตน์” พร้อมยันว่า 70-30 เปอร์เซ็นต์ที่เคยบอกเก้าไปนั้นเป็นข้อเสนอหากอีกฝ่ายยอมมาเป็นเด็กในสังกัด ไม่ใช่สัญญาใจ

รายการโหนกระแสวันที่ 3 ส.ค. “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ในฐานะผู้ดำเนินรายการ ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.20 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 เปิดใจสัมภาษณ์ “เก้า เกริกพล” ที่มาออกรายการพร้อม “คุณพ่อ” พร้อมเปิดใจทุกเรื่องราว

รู้สึกยังไงกับฉายาใหม่ “เก้า500″?

เก้า : “ก็ว่าไปตามนั้นครับ (หัวเราะ) ได้ฉายาใหม่ ไม่ใช่เก้า เดอะวอยซ์นะ เป็นเก้า 500”

จริงๆ เราไปฟีเจอรริ่งเพลงนี้ได้ยังไง?

เก้า : “พี่เขาติดต่อผมมาไปฟีเจอร์ริ่งรอบแรก แต่ผมไม่ไป ก่อนหน้าเพลงเลิกคุยฯ ก็มีให้ผมไปฟีเจอร์ริ่ง ทีนี้ผมไม่ได้ไป หลังจากนั้นไปออกรายการเดียวกัน ได้รู้จักกันมากขึ้น ผมก็ตัดสินใจไปร่วมกับเขาหลังจากนั้น”

พอหลังจากนั้น เพลงเริ่มดัง ตอนนั้นเห็นบอกว่าได้เงินครั้งแรก เขาโอนให้ 1 หมื่น เป็นค่าอะไร?

เก้า : “เขาบอกว่าเป็นค่าขนม ค่าน้ำมันรถ พี่เขาไม่ได้บอกชัดเจนว่านี่เป็นค่าตัวน้อง สำหรับที่ผมเข้าใจก็คิดว่าเป็นค่าขนม ค่าน้ำมันรถ ซึ่งสำหรับผมมันเยอะมาก 1 หมื่น”

เป็นไปได้มั้ยค่าขนมคือค่าตัว เพราะเวลาคนในวงการไปเรียกค่าตัวก็จะพูดคำนี้ เป็นการเรียกแทน ทำให้เข้าใจผิดมั้ย?

เก้า : “สำหรับผม ผมเข้าใจแบบนั้นครับ ตอนแรกผมก็คิดว่าเป็นค่าขนม ค่าน้ำมันรถ เพราะหลังจากนั้นมันมีการตกลงหลังจาก 1 หมื่น ตกลงเรื่องสัญญาใจ ที่ 70-30 ว่าจะแบ่งค่ายูทูป ดูแลน้องทุกอย่างหลังจาก 1 หมื่นบาท”

หลังจากนั้นเขาไปเจรจากับแม่ ตอนนั้นเพลงออกหรือยัง?

เก้า : “ตอนนั้นเพลงยังไม่ออก ตอนนั้นอัดเสียงเสร็จแล้ว แล้วไปตกลงกันก่อนถ่ายเอมวี บอกว่าจะดูแลค่าถ่ายเอ็มวีให้ ดูแลทุกอย่าง พวกค่าใช้จ่ายทุกอย่างจะดูแล ตกลงก็ต้องดูแลตัวเอง ผมเอาเงิน 1 หมื่นมาซื้อเสื้อผ้าที่พี่เขาบอกว่าต้องแบบนี้ๆ”

ซื้อไปเท่าไหร่?

เก้า : “ลงทุนไป 6 พัน เพราะผมก็อยากเต็มที่กับงาน ที่นี้เรื่องที่พักค่ากินค่าอะไรก็ออกเองหมด เพราะผมอยู่พัทลุง แล้วไปถ่ายที่สิชล มีค่าเดินทาง”

ค่าที่พักต้องออกเอง?

เก้า : “ใช่ครับ ต้องออกเองครับ พี่เขาไม่ได้ดูแลตรงนี้ หลังจากนั้นก็ไปกับญาติๆ ไปกินงาน”

ทั้งหมดจ่ายไปเท่าไหร่?

เก้า : “1 หมื่นครับ เข้าเนื้อไป 2 พัน”

มีการบอกเขามั้ย?

เก้า : “ผมไม่ได้บอกอะไร เพราะเราตกลงมาก่อนหน้านี้แล้ว ผมก็อยากทำงานให้เต็มที่ ข้างหน้าเราไม่รู้จะยังไง แต่ได้ตกลงกันเสร็จแล้ว”

ไปคุยตอนไหนเขาจะให้เรา 30?

เก้า : “ก่อนทำเพลง ก่อนที่จะถ่ายเอ็มวี ไปคุยกันที่จ.พัทลุง”

มีใครเป็นพยาน?

เก้า : “มีแม่ผม แฟนเขา แล้วก็เขา 4 คน แต่วันที่คุย มีเขา ผม แม่ผม 3 คน”

เจนนี่บอกว่าเป็นการตกลงกันว่าถ้าเก้าเข้าไปอยู่ค่ายเขา เขาถึงจะให้ 30 เปอร์เซ็นต์ แต่เมื่อเก้าไม่ได้ไปอยู่ในค่ายของเขา เขาก็เลยไม่ให้?

เก้า : “ตรงนี้ไม่มีการพูดครับ ตอนนี้ยังไม่มีค่ายเพลง ตอนที่สัญญาใจกัน ไม่มีค่าย ไม่ได้บอกเลยว่าน้องมาเซ็นสัญญากับพี่นะ ไม่มีเลย ตอนมาบอกว่าเซ็นสัญญาค่ายตอนที่เพลงที่ดัง ที่จะทำค่ายขึ้นมา ตอนบอกว่าทำสัญญากับพี่ ยังไม่ทำค่าย”

ยืนยันว่าตอนนั้นไม่มีค่าย จะให้เซ็นอยู่กับเขาได้ยังไง แต่เขาบอกจริงๆ ?

เก้า : “เขาบอกจริงๆ ว่ามาเซ็นอยู่กับพี่ ตอนนั้นผมอยู่กับพ่อติ๊ก ชิโร่ มีสัญญาใจกันแล้ว ผมมีสัญญาใจเรื่องเดอะวอยซ์คิดส์ ตอนนั้นติดต่อเป็นปี ก็บอกแล้วว่าผมจะไป ตอนที่เพลงดังผมก็ยังไปอยู่กับพ่อติ๊กเลย ตอนนั้นพ่อติ๊กบอกผมแล้วว่าเพลงดังแล้วนะ น่าจะจดอะไรไว้สักนิด ตอนนั้นผมก็ไม่ได้เชื่อตรงนั้น พ่อติ๊กบอกว่าเดี๋ยวจะมีปัญหาตามหลังมา แล้วก็เป็นจริงๆ”

เห็นในไลฟ์เก้าไม่ได้คุยมาปีนึง?

เก้า : “ไม่ได้ติดต่อเลยหลังจากนั้น”

ประเด็นเกิดจากอะไร?

เก้า : “เกิดจากแฟนคลับรู้บ้างไม่รู้บ้างแล้วด่าไปมาจนเป็นประเด็น”

เขาบอกว่าเรื่องเกิดจากเพจนึง แม่ไปขอความเป็นธรรมจากเพจนั้น เขาโชว์รูปแม่เลยนะ แม่ไปบอกเพจว่าอย่างนั้นอย่างนี้ คนก็เลยมาด่าแม่เขา ด่าเขา เขาเลยออกมาชี้แจง?

เก้า : “ตรงนี้ไปด่าแม่เขายังไม่มีครับ ผมบอกเลยว่าครอบครัวผมไม้ได้รู้จักมาก่อน ไม่ได้ไปสนิทอะไร มีแฟนคลับด่าไปมาจนเกิดเป็นประเด็น และมีเพจนึงติดต่อแม่มา ถามความจริงจากแม่ว่าเป็นยังไง แม่ก็เลยพูดไปทั้งหมด ทุกอย่างเป็นเรื่องจริงหมด”

พ่อเองติดต่อไปหาเจนนี่?

พ่อ : “พ่อติดต่อไปตั้งแต่โปรโมตเพลงในรายการทีวี พอโปรโมตเสร็จก็ไม่มีออกทีวีแล้ว หลังจากนั้นเจนี่ก็เงียบหายไปเลย หลังโปรโมตเพลงตามรายการต่างๆ พ่อเห็นหายไปเลย ไม่ติดต่อครอบครัว เป็นเดือนกว่าเพลงเข้าไปร้อยกว่าล้านวิว เขาก็หายไปเลย ไม่โทรศัพท์ ไม่ติดต่อ หายไปนานแล้ว ก็เลยโทรกลับไป”

พ่อบอกเขายังไง?

พ่อ : “ก็โทรถามว่าเจนนี่ ยอดวิวไปตั้งร้อยกว่าล้าน ไม่คิดถึงน้องเก้าบ้างเหรอ ก็พูดเรื่องน้ำใจสำคัญ ประมาณนี้ น้ำใจสำคัญมากกว่าทรัพย์สินเงินทองประมาณนั้น เขาก็ตอบกลับมาว่าพ่อจะเอาเท่าไหร่ เขาหมายถึงพ่อทวงเงิน”

ใจจริงพ่อต้องการอะไร?

พ่อ : “เจตนาพ่อต้องการสื่อให้เขารู้ว่าคุณเงียบไปมันเป็นยังไง”

ไม่ได้จะไปทวงตังค์?

พ่อ : “แค่สื่อตรงนั้น ในส่วนรายได้ ไม่ได้อยู่กับแม่กับเก้า พ่อก็เลยไม่มีส่วนตรงนั้น”

เขาบอกว่าเขาได้ถามพ่อ พ่อบอกว่าตอนนั้นน้องได้ 1 หมื่นก็เข้าเนื้อเหมือนกัน เขาเลยโอนให้ 2 หมื่น?

เก้า : “ครับ หลังจากนั้นผมรู้เลยว่าถ้าเราไม่โทรไป เขาจะคิดถึงผมมั้ย ถ้าเราไม่ติดต่อไป หลังพ่อโทรเสร็จ เขาก็เขียนมาเลย เหมือนเรียงความ ว่าขอบคุณน้องสำหรับเพลง 100 ล้านวิว พี่โอนค่าตัวเพิ่มนะ 2 หมื่น คุยกันเรื่องค่าตัว แต่ผมรู้เลยว่าถ้าพี่เขาให้ด้วยใจ เขาต้องคิดได้นานแล้วโดยที่เราไม่ต้องโทรไปบอก ไม่ต้องให้เราโทรไปบอกว่าน้ำใจคนเรามันยังไง”

เพลงเดียวที่ฟีเจอร์ริ่งได้แค่หมื่นเดียวเหรอ?

เก้า : “หมื่นเดียวครับ พี่เขาแคปมาไม่หมด”

เขาไม่ได้ให้อะไรเพิ่มจากนั้นเลยเหรอ?

เก้า : “ครับ หลังจากพ่อโทรไปแล้ว ไม่ได้ติดต่ออะไรเลย”

เป็นการพูดคุยกัน โอนคืนเขาไป?

เก้า : “ครับ เพราะเรารู้อยู่แล้วว่าเขาไม่ได้ให้เราด้วยใจ และสัญญาที่เราให้สัญญากันก่อนหน้านี้”

วันนี้จะเอาอีกมั้ย 70-30?

เก้า : “ตอนนี้ผมไม่ต้องการแล้ว เพราะเราเคลียร์กันไปแล้ว ก่อนหน้านั้นจบไปแล้ว เราได้ยื่นเอกสารไป พี่เขาได้เซ็นรับแล้ว แต่ก็เมิน หลังจากนั้นก็จบไปเป็นปีเลย”

สัญญาใจคือเรื่อง 70-30 แต่เขาบอกไม่มีสัญญาใจ มีแต่ข้อเสนอ แต่เก้าบอกว่าตอนนั้นยังไม่มีค่าย?

เก้า : “ครับ”

ตอนพักเบรกไป ถามเรื่องยื่นข้อเสนอให้อยู่ในค่ายมีจริงมั้ย เก้าบอกว่ามีจริง เป็นช่วงไหน?

เก้า : “เป็นช่วงที่ผมโทรไปยินดี ตอนที่เพลงกำลังดัง ไป 10 กว่าล้านแล้ว ผมเชื่อว่าเพลงนี้ทะลุ 100 ล้านวิวแน่นอน สิ่งทีได้ยินมาวันนั้นคือเขาบอกว่าเพลงนี้ไม่ใช่ของน้องนะ เป็นของลิลลี่นะ ถ้าอยากได้รายได้ตรงนี้มาเซ็นสัญญากับพี่ แล้วรับไปเพลงหน้า ต่อให้เซ็นสัญญาก็ไม่ได้ส่วนตรงนี้”

เหตุการณ์แรก มีการพูดคุยกันระหว่างแม่กับเก้า เจนนี่และแฟนเจนนี่ที่พัทลุง ตอนนั้นตกลงเรื่องสัญญาใจ ไม่มีค่าย เหตุการณ์ผ่านไป เพลงยังไม่ออก ค่ายไม่มี พอเพลงปล่อยไป เริ่มมีวิวถึง 10 ล้าน เก้าโทรหาเขาบอกว่าถึง 100 ล้านวิวแน่ เขาถึงบอกว่าถ้ามาเซ็นสัญญากับพี่ พี่ถึงจะให้ เพราะเพลงนี้เป็นเพลงลิลลี่?

เก้า : “ใช่ครับ ซึ่งผมก็ไม่ได้บอกว่าเพลงนี้เป็นของผมนะ เป็นเพลงของน้องเขาแหละ แต่เรามีส่วนร่วมตรงนี้เหมือนกัน แล้วสัญญาที่เขาให้กับเรา วันนี้กลับมาคืนคำ”

ทำไมไม่ออกมาพูดตั้งแต่แรก?

เก้า : “ผมยื่นเอกสารให้เขาแล้ว เขาเซ็นรับแล้ว เอกสารทวงถาม ยื่นโนติสไปเรื่อง 30 เปอร์เซ็นต์ เขาเซ็นรับไปแล้ว”

เป็นญาติเซ็นรับ ซึ่งเป็นเอกสารที่เจนนี่บอกว่าไม่ได้ และไม่รู้ว่าเป็นเอกสารอะไรส่งมา ตอนนี้เก้ายื่นโนติสเตือนกับทนายความกับข้อกฎหมายว่าต้องมีการพูดคุยเรื่องเงิน 30 เปอร์เซ็นต์ เขาบอกว่าเขาไม่ได้รับ?

เก้า : “ก็มีคนเซ็นรับไปแล้วนี่ครับ ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน”

ฉายา เก้า 500 มาจากไหน?

เก้า : “ที่เขาบอกผมว่าผมมาอยู่กรุงเทพฯ อันนี้ไม่จริง ตอนนั้นผมอยู่พัทลุงเพื่อมาออกรายการกับพี่เขา ได้ 500 มา 4 รายการ”

รายการอะไร บอกมาเลย?

เก้า : “รายการโหนกระแส แฉ อัมรินทร์ และซูเปอร์มัม รายการละ 500 หมดเลย ได้เป็นเงินสด ยืนยันว่าโหนกระแส 500 ส่วนสองรายการหลัง 3 พันเขาโอนมาจริง แต่ถ้าพ่อผมไม่โทรหาทีมงาน เขาก็คงให้ 500 เหมือนเดิม”

พ่อโทรหารายการอื่นๆ เอง เขาถึงให้น้อง 3 พัน เขาให้ตรงหรือผ่านเจนนี่?

เก้า : “พี่เจนนี่เขาโอนมาให้ผม พ่อโทรบอกรายการว่าไม่พอนะ 500 หลังจากนั้น 2 รายการเขาให้มา 3 พัน เป็นรายการละพันห้า คือฝั่งครอบครัวผมไม่ได้เซ็นรับเลย เป็นฝั่งพี่เขาหมดเลยเซ็นรับ แล้วเขาบอกว่าให้ผมไปหาหลักฐานมา แล้วจะให้ผมไปหาหลักฐานมายังไง ค่ารถ 500 มารถแท็กซี่ก็หมดแล้ว”

เขาบอกยังไงถึงให้ 500?

เก้า : “เขาบอกมีทีมงานพี่ด้วย ทีมงานพี่เยอะมาก แล้วเขาจะพามาทำไม”

เอาโหนกระแสก่อน จำได้ตอนนั้นติดต่อมา 2 คน คือเก้ากับลิลลี่ หลังจากนั้นถึงมารู้ทีหลังว่าเจนนี่แต่งเพลง เลยให้เจนนี่ขึ้นมาด้วย ตอนนั้นไม่มีทีมงาน เขาบอกมั้ย เขาให้ 3 พันหรือเปล่า?

เก้า : “เขาให้ผม 500”

มีคนมาด่าผมเหมือนกันว่าผมสะตอหรือเปล่า ที่บอกว่าผมให้ไปหมื่นนึง ทำไมถึงไปให้เขา 500 ได้ เดี๋ยววันนี้ให้ดูแล้วกัน คือความชัดเจน ใบรับเงินดีคืนดีวัน เซ็นชื่อโดยรัชนก เป็นใบรับเงิน ถ้าสังเกตจะเห็นได้ว่า 7 พัน + 3 พัน เพราะตอนแรกรายการจะเอาแค่เก้ากับลิลลี่ ให้คนละ 3,500 แต่เพิ่มเจนนี่มาด้วยก็ให้ไปอีก 3 พัน เป็นหนึ่งหมื่น แล้วเจนนี่เอาบัตรประชาชนมารับ ก็ให้ไปทั้งก้อน คิดว่าให้ไปแบ่งกัน หลายคนที่สงสัยว่าผมสะตอหรือเปล่า จริงๆ ผมไม่ได้อยากเอามาออกอากาศนะ ก็ไม่รู้ว่าจะดีหรือไม่ดี แต่มีการพาดพิงว่าผมโกหกหรือเปล่า จริงๆ ให้ไม่ถึงหมื่นหรือเปล่า อันนี้คือความชัดเจน สบายใจนะ พี่ไม่ได้ให้ 500?

เก้า : “ขอบคุณครับ (หัวเราะ)”

พี่มีโอกาสคุยกับเจนี่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เขาชี้แจงว่าเขาจำไม่ได้หรอกว่าเขามาโหนกระแส เขาได้เท่าไหร่ เขาขอไปหาเอกสารก่อนว่าเขาได้เท่าไหร่เขาบอกว่าบางรายการที่เขาไปได้ 3,500 ก็มี เขาเลยให้ 500 แต่ละที่ไม่ได้ให้เป็นหมื่นทุกรายการ เขาก็ฝากอีกเรื่อง เรื่องน้องเปา คุณเจนนี่ฝากบอกว่าจริงๆ แล้วค่าลงทุนในมิวสิกวิดีโอตัวนั้นคือ 5.8 หมื่น ธรรมดา 1 ล้านวิวได้ 9 พันถึง 1 หมื่นบาท ของน้องเปาได้มา 9 ล้านวิว ฉะนั้นเงินที่ได้มา 9.1 หมื่นบาท หักค่าลงทุน 5.8 หมื่นบาท ฉะนั้นจะเหลือ 3.3 หมื่นบาท เปาได้ 30 เปอร์เซ็นต์ เขาได้ไป 9 พันกว่าบาทแต่เจนนี่ให้ไปหมื่นนึง เรื่องนี้จะยังไงต่อไป?

เก้า : “แล้วแต่ผู้ใหญ่ครับ ผมอยากบอกว่าเรื่องยูทูป ตอนนี้ผมกินอยู่กับยูทูป เพราะตลอด 1 ปี ที่ผ่านมาผมโดนปิดงานหมดเลย”

ตอนนี้ถ้าเขาเอาเงินก้อนมาเคลียร์ ให้ล้านนึง จบมั้ย?

เก้า : “ไม่ครับ ผมอยากให้พี่เขาพูดความจริงเท่านั้น ให้เขายอมรับให้หมดเลยว่าที่ผมพูดมามันคือความจริงทั้งหมด เพราะหลังไมค์ให้ผู้ใหญ่ฝั่งเขาโทรมาเคลียร์กับฝั่งผมด้วย แต่สิ่งที่เขาอยากจะเคลียร์กับสิ่งที่เขาโพสต์และสิ่งที่เขาเมนต์ เขาไม่ต้องการจะเคลียร์ ผมก็แล้วแต่เลย”

ถ้าเคลียร์หลังบ้านได้มั้ย?

เก้า : “มันไปไกลแล้ว วันก่อนพี่ไลฟ์สดคนดูตั้ง 6 แสน แต่พี่ก็ยังไม่ยอมรับความจริง อยากให้ออกมายอมรับความจริงว่าสิ่งที่ผมพูดทั้งหมดคือความจริงทั้งหมด”

อยากบอกอะไรเจนนี่?

เก้า : “อยากให้ออกมาพูคดวามจริงทุกเรื่อง ถ้าวันก่อนได้ไลฟ์สด พูดความจริงทั้งหมด และยอมรับ รับผิดชอบในส่วนที่ผิดไปก็จบไปนานแล้ว แต่พี่มาพูดอย่างนี้ก็ต้องยาวไปอีก แต่ถ้าเป็นแบบนี้ ผมก็ต้องปรึกษาผู้ใหญ่ว่าเขาต้องการยังไง ส่วนตรงนี้ผมไม่สามารถตัดสินใจได้”

ล้านนึงจบ ได้มั้ย?

เก้า : “ไม่ครับ”

จะเอา 30 เปอร์เซ็นต์?

เก้า : “อันนี้บอกแล้วว่าแล้วแต่ผู้ใหญ่ครับ เรื่องอยู่ที่ผู้ใหญ่ ถ้าจะเคลียร์ข้างหลังแบบพี่น้อง ก็เอาไว้ก่อน ให้พี่เขาออกมาพูดความจริงก่อน”

ตอนนี้สดชื่นมั้ย?

เก้า : “ตอนนี้ไม่สดชื่นครับ (หัวเราะ) ผมอยากขอบคุณผู้ใหญ่ที่ยื่นมือเข้ามาช่วยผมด้วย แต่ผมไม่ได้รับตรงนั้น เพราะผมไม่ได้ต้องการเงินอะไรตรงนั้น เพราะผมได้อยู่กับค่ายพี่ติ๊ก ชิโร่อยู่แล้ว ขอบคุณทุกกำลังใจที่เขามาซัพพอร์ตผมครับ ขอบคุณมากๆ ครับ”

ขอขอบคุณ
แหล่งที่มา : sanook

อีอีซีให้เรียนฟรีมีงานทำรายได้สูง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้าการพัฒนาบุคลากร ตามแนวทาง “อีอีซีโมเดล โอกาสมาถึงบ้านงานมาถึงตัว” ของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.หรือสำนักงานอีอีซี) ได้ดำเนินการพัฒนาบุคลากรกับผู้ประกอบการ ตามแนวทางอีอีซีโมเดล ตามที่มีประมาณการความต้องการ 5 ปี (2562-2566) จำนวน 475,793 คน ซึ่งเป็นการพัฒนาบุคลากรแบบ Demand Driven หรือตามความต้องการของอุตสาหกรรมเป้าหมายในพื้นที่ โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาบุคลากรในอีอีซีใช้ EEC Model Type A เป็นรูปแบบที่เอกชน จ่าย 100% เรียนฟรี มีงานทำ รายได้สูง และ EEC Model Type B เป็นรูปแบบที่สถานศึกษาของรัฐบาลและผู้ประกอบการภาคเอกชนร่วมกันจัดระบบการศึกษา โดยเอกชนจะรับนักศึกษาเข้าฝึกงาน รัฐจ่าย 50% และเอกชนจ่าย 50% เป็นแนวทางหลักในการพัฒนาบุคลากรในอีอีซี และให้ศูนย์ประสานการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ภาคตะวันออก (EEC-HDC) ของ สกพอ.เป็นผู้ประสานงานหลัก

โดยสำนักปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ได้ปรับหลักสูตรที่ได้รับปริญญาหรือประกาศนียบัตรวิชาชีพ เป็นแบบ EEC Model Type A ให้มากที่สุด เพื่อให้ได้ตามเป้าหมาย 30,000 คน ในระยะนี้ และ 100,000 คน ภายในระยะเวลา 5 ปี ขณะเดียวกัน สกพอ.ได้ขยายกรอบความร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาเพื่อผลักดันให้สถาบันอาชีวศึกษาในภาคตะวันออก 12 สถาบัน ซึ่งมีกำลังการผลิตนักศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) รวมปีละ 8,200 คน เป็นรูปแบบ EEC Model Type A ให้ได้อย่างน้อย 30% ของผู้สำเร็จการศึกษา ปวส. ในปี 2566 โดยดำเนินการแล้วประมาณ 1,500 คน ต้องการเพิ่ม 7,000 คน และขยายจำนวนนักศึกษาที่เข้าอบรมหลักสูตรระยะสั้น รัฐเอกชนร่วมจ่าย 50 : 50 ให้ได้ 20,000 คน ในปีงบประมาณ 2564 รวมทั้งให้ขยายผลการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการภาษากับเนื้อหา กับการเรียนการสอนกลุ่มอาชีวศึกษา ซึ่งผู้สอนในสาขาวิชาชีพต่างๆนำภาษาอังกฤษไปสอดแทรกในการจัดการเรียนรู้ เพื่อให้นักศึกษาสามารถใช้ภาษาอังกฤษเฉพาะทางได้ นอกจากนี้ สกพอ.ได้ร่วมมือกับกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน พัฒนาฝีมือแรงงานให้หน่วยฝึกอบรมของกรมพัฒนาฝีมือแรงงานในอีอีซี เช่น สถาบันพัฒนาบุคลากรสาขาเทคโนโลยีการผลิตอัตโนมัติและหุ่นยนต์ด้วย

cr. ไทยรัฐ

“บิ๊กตู่” เผย ไม่ลงพื้นที่เยี่ยมผู้ประสบภัย จ.เลย หวั่นคนแห่ต้อนรับ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการสถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.เลย ว่า ขอให้ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี ซึ่งขณะนี้ได้มีการประสานทุกหน่วยงานให้ไปดูแลแล้ว โดยมีกระทรวงมหาดไทยเป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งคณะนี้สถานการณ์ก็เริ่มคลี่คลายแล้ว แต่ยังคงต้องระมัดระวัง เพราะมีพายุเข้ามาโดยมีการรายงานว่ามีฝนตกถล่มหนักอยู่ ระบบระบายน้ำปกติไม่สามารถรองรับได้ และหลังจากนี้ต้องเข้าไปดูแลความเสียหายที่เกิดขึ้นกับบ้านเรือนประชาชน 

ทั้งนี้ได้พยามเร่งรัดให้ทุกฝ่ายดูแลให้เกิดความเสียหายน้อยที่สุด พร้อมฝากความห่วงใยไปยังประชาชน ในช่วงนี้ที่มีมรสุมเข้ามาในจังหวัดที่มีความเสี่ยงต้องระมัดระวัง หากมีพื้นที่ใดที่สามารถเก็บน้ำได้ก็ขอให้เก็บ เพื่อรองรับปัญหาน้ำแล้งในวันหน้า ส่วนจะลงพื้นที่ไปสั่งการเองหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าในพื้นที่มีคนทำงานอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องไปสั่งใคร เพราะหากมีผู้ใหญ่ไปก็ต้องมีคนมาต้อนรับ คนจะว่าเอาทีหลังได้

cr. sanook

“บิ๊กป้อม” ชี้ หากรื้อคดี “บอส อยู่วิทยา” ก็เป็นเรื่องที่ไกลเกินไป

เมื่อเวลา 09.40 น. วันที่ 3 ส.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี (ฝ่ายความมั่นคง) กล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส ที่มีนายวิชา มหาคุณ เป็นประธานโดยจะมีการประชุมในวันนี้ 3 ส.ค. ว่า

อยากให้กระบวนการยุติธรรมกลับมาตามที่ประชาชนอยากเห็น ก็ต้องตรวจสอบว่าเป็นอย่างไร และอัยการกับตำรวจจะเป็นอย่างไร ทำให้คลี่คลายเพื่อให้ประชาชนเข้าใจ เมื่อถามว่าคดีนี้ควรจะรื้อขึ้นมาพิจารณาใหม่อีกครั้งหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “ไม่ได้หรอก ต้องไปดูก่อนว่าเป็นอย่างไร อย่าเพิ่งถามไปไกลเกิน”

cr. ข่าวสด

เพจดังจับโป๊ะ! แกนนำ “อาชีวะช่วยชาติ” ที่แท้กลุ่มคนคุ้นๆ เห็นแล้วอ๋อ

จากกรณีเมื่อวันที่ 30 ก.ค. ที่ผ่านมา มีการชุมนุมของกลุ่ม อาชีวะช่วยชาติ ซึ่งมีกลุ่มนักเรียนนักศึกษาช่างกล-อาชีวะรวมถึงศิษย์เก่าจากหลายสถาบันเข้าร่วมหลายสิบคน แต่งกายด้วยเสื้อสถาบัน บางส่วนสวมชุดสีเหลือง ซึ่ง นายทศพล มนูญรัตน์ ศิษย์เก่ามีนบุรีโปลีเทคนิค แกนนำกลุ่มอาชีวะช่วยชาติ ให้สัมภาษณ์ช่วงหนึ่งว่า

เรื่องความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้น ในรูปแบบม็อบชนม็อบนั้น ก็คงแล้วแต่สถานการณ์หลังจากนี้จะติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มเยาวชนปลดแอกอย่างเข้มข้น และอยากฝากใน 2 เรื่องคือ 1.ขอให้ระวังตัวให้ดี และ 2.ขอให้หยุดการกระทำดังกล่าว และบทสัมภาษณดังกล่าว ก็เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกโซเชียล

ต่อมาวันนี้ (3 ส.ค.) เพจ CSI LA ได้เผยแพร่ภาพของแกนนำม็อบอาชีวะคนดังกล่าว โดยอ้างว่า มีความเชื่อมโยงกับพรรคพลังประชารัฐ และกลุ่มแกนนำพรรคการเมือง ในฟากของปีกกลุ่มอดีตแกนนำชุมนุม กปปส. ที่เคยจัดการชุมนุมช่วงก่อนมีการรัฐประหาร 2557 เช่น นายณัฎฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศธ. และ นายถาวร เสนเนียม รมว.คมนาคม เป็นต้น

https://www.facebook.com/CSILA90210/posts/3189392791138424

cr. ข่าวสด

ญาญ่า ขอโชว์หวานบ้าง งานนี้ ณเดชน์ ถึงกับกรี๊ด

โชว์หวานกันถี่ๆ ให้ แฟนคลับได้กรี๊ดกร๊าดกันเป็นระยะ ไม่กี่วันก่อน ณเดชน์ คูกิมิยะ เขาก็ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องการเตรียมแผนแต่งงาน แถมยังยืนยันว่าเจ้าสาวของเขาเป็น ญาญ่า อุรัสยา แน่นอน

มาครั้งนี้หนูญาญ่า ขอโชว์หวานคืนบ้าง ด้วยการโพส่ต์ภาพไปยืนดูพระอาทิตย์กับพี่แบร์ พร้อมกับเขียนแคปชั่นว่า Reminiscing of beach sunsets! ✨?✨

งานนี้ พี่แบร์ ก็เข้ามาคอมเมนต์ว่า อ๊ายยยยย ฉันกรี๊ดเลยยยยยย???

ด้านแม่แก้ว ก็เข้ามาคอมเมานต์แซวลูกชายว่า แม่ก็กรี๊ดดดดดด555❤️❤️❤️❤️??

ขอบคุณรูปจากไอจี : urassayas

cr. ข่าวสด

“มารี เบิร์นเนอร์” ประกาศมูฟออน ชัดเจนแล้ว เลิก “กัน นภัทร”

ชัดเจนแล้วสำหรับคู่ของ มารี เบอร์นเนอร์ กับหนุ่ม กัน นภัทร ที่ล่าสุดฝ่ายหญิงออกมาโพสต์ข้อความประกาศขอมูฟออน วันนี้ขอทำเพื่อตัวเอง สิ้นสุดทางรักอีกคู่ 

หลังจากที่ปล่อยให้หลายคนสงสัยในความสัมพันธ์มาสักพัก หลังจากที่นางเอกสาว มารี เบิร์นเนอร์ ลบรูปคู่ กัน นภัทร ออกจากโซเชียล ทั้งที่เพิ่งกลับมารีเทิร์นเลิฟกันได้ไม่นาน รวมถึงก่อนหน้านี้ที่หนุ่มกันไปงานแต่งน้องชายก็ไร้ซึ่งมารี รวมถึงข้อความเศร้าๆ ที่ต่างฝ่ายต่างออกมาโพสต์ก่อนหน้านี้ 

ล่าสุด (2 ส.ค.) มารี ได้ออกมาเคลื่อนไหวในอินสตาแกรม โพสต์ข้อความทั้งขอโทษและขอบคุณทุกคนที่เชียร์ และให้กำลังใจมาตลอด บอกไม่มีใครอยากผิดหวังเรื่องความรัก แต่สุดท้ายต้องยอมรับความจริง ขอทำเพื่อตัวเองโดยการมูฟออน ตามข้อความที่มารีเขียนไว้ว่า  

“อยากขอโทษและขอบคุณทุกคนที่เชียร์และทุกคนที่ให้กำลังใจมาตลอดนะคะ เต็มที่ของเรามันได้แค่นี้ อาจจะน้อยไปหรืออาจจะมากไป แต่คงไม่พอดีกับตอนจบที่คาดหวังไว้ค่ะ

วันนี้อยากใช้ชีวิตกับความเป็นจริง ไม่มีใครอยากเสียใจหรือผิดหวังเรื่องความรัก แต่เราควบคุมมุมมองหรือการกระทำของคนอื่นไม่ได้ สุดท้ายต้องยอมรับความจริง วันนี้ขออนุญาตเอาตัวเองออกมาจากจุดที่เจ็บ ด้วยการ move on ในแบบที่เราทำได้ด้วยตัวเองค่ะ วันนี้ขอทำเพื่อตัวเองนะคะ ขอโทษและขอบคุณทุกคนนะคะ”

ซึ่งใต้โพสต์นี้ก็มีแต่คนที่เข้าไปให้กำลังใจ มารี เบิร์นเนอร์ สำหรับความรักที่สุดท้ายต้องจบลง 

ขอขอบคุณ

ภาพ : IG@marie_broenner

cr. sanook

“วิน เมธวิน” เกณฑ์ทหารตั้งใจจับใบดำ-ใบแดง ชวดรับใช้ชาติคนสมัครเต็ม!

วิน เมธวิน ตั้งใจเกณฑ์ทหารปีนี้ขอลุ้นจับใบดำ-ใบแดง ผลปรากฏว่าอดรับใช้ชาติ เพราะคนสมัครเต็มแล้ว 

ถึงเวลาที่ชายไทยที่อายุครบเกณฑ์ในปี 2563 จะต้องมาทำหน้าที่เข้ารับการคัดเลือกเป็นทหารเพื่อรับใช้ชาติ โดยในปีนี้หนุ่มฮอต วิน-เมธวิน โอภาสเอี่ยมขจร นักแสดงในสังกัดจีเอ็มเอ็มทีวี อายุครบ 21 ปีบริบูรณ์ ได้เดินทางไปเข้ารับคัดเลือกทหารกองเกิน ประจำปี 2563 ที่วัดสะแกงาม เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร

ซึ่ง วิน ได้รายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่ ตรวจร่างกายเป็นที่เรียบร้อย และพร้อมจับสลากใบดำใบแดง โดยในปีนี้มีผู้เข้ารับการเกณฑ์ทหารในพื้นที่ดังกล่าวจำนวน 340 คน

ทั้งนี้ จากรายงานมีผู้ที่ผ่านเกณฑ์ต้องจับใบดำใบแดงจำนวน 128 คน แต่มีผู้ที่สมัครและต้องเป็นทหารจำนวน 32 คน ครบตามจำนวนที่ทางกองทัพต้องการในหน่วยนี้ จึงทำให้ผู้มีสิทธิ์ในการเกณฑ์ทหารไม่ต้องจับฉลากแต่อย่างใด

ขอขอบคุณ

ภาพ : winmetawin

cr. sanook