นายกฯย้ำคุมโควิดได้เลี่ยงล็อกดาวน์เข้มชายแดน

203
แชร์ข่าวนี้

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พูดคุยกับประชาชน ผ่านรายการ PM PODCAST “นายกรัฐมนตรีเล่าเรื่อง” ทางช่องทางเพจเฟชบุ๊ก ไทยคู่ฟ้า
ภายหลังเกิดขึ้นการระบาด โควิด-19 รอบใหม่ว่า รัฐบาลสามารถควบคุมในบางจังหวัดได้ แต่ในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร ยังเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด ขณะเดียวกัน
รัฐบาลเลี่ยงการล็อกดาวน์ประเทศ แต่หันมาใช้การแบ่งโซนพื้นที่ เพื่อกำหนดมาตรการให้เหมาะสม พยุงเศรษฐกิจไปได้ โดยที่ผ่านมา ยืนยันว่า การสั่งปิดตลาดแต่ไม่ได้ปิดห้างนั้น เป็นไปตามการประเมินความเสี่ยงของการติดเชื้อ ซึ่งเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องได้มีการประเมินทุกวันว่า พื้นที่ไหนเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ศบค.
ก็จะพิจารณาเปิด-ปิด เป็นรายกิจกรรมต่างๆ ไป ดังนั้น การที่มีข้อมูลกล่าวอ้างว่าเป็นการเอื้อเจ้าสัวประกอบกิจการนั้น ยืนยันว่า เป็นข้อมูลที่ไม่จริง เลื่อนลอย ไร้ตรรกะ และไร้ข้อมูลโดยสิ้นเชิง

ขณะที่การแก้ปัญหาโควิด-19 ที่ฝ่ายความมั่นคงได้มีการเฝ้าระวังตามแนวชายแดนทั่วประเทศ โดยเฉพาะชายแดนไทย เมียนมา ที่มีชายแดนติดไทยถึง 2,400 กิโลเมตร ครอบคลุม 23 จังหวัด จึงมีการทำงานเชิงรุกตามแนวชายแดนมากขึ้น ใช้ตำรวจ ทหาร และโดรนตรวจจับทางอากาศ เฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง ขณะเดียวกันใช้มาตราการทางสังคมเข้ามาช่วย เช่น ใช้อาสาสมัครเฝ้าระวังการลักลอบ เป็นยามเฝ้าแผ่นดิน เพื่อแบ่งเบาภาระให้ทุกคน

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่าขออย่ามัวโทษกันไปมา และอย่าปล่อยให้คนชั่ว คนทำผิดเข้ามาอยู่ในพื้นที่ของเรา ขณะเดียว ศบค. ใช้ทุกกลไกเฝ้าระวังในพื้นที่ รวมถึงตรวจ ค้นหา จับกุม กลุ่มบุคคลที่มั่วสุ่มเสี่ยงต่อการแพร่ระบาด โดยมีการดำเนินการตามกฎหมาย อย่างเข้มงวด และสถานที่เกิดขึ้นบ้านเมืองเราโชคดี มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ คุ้มครอง ประชาชนให้ความร่วมมือ สมัคคีกันทุกภาคส่วน เจ้าหน้าที่ทำงานอย่างหนัก โดยเฉพาะ จ.สมุครสาคร
ที่เจ้าหน้าที่เสียสละ ทำงานจนล้มป่วย แต่ได้รับความมือกำลังเสริมชุดสอบสวนโรค กว่า 800 คน จาก 41 จังหวัด เจ้าหน้าที่ชุดตรวจค้นหาเชิงรุกอีก 250 คน จาก 25 จังหวัด ซึ่งการทำงานแบบไทย ๆ เป็นจุดแข็งให้เรา เมื่อมีภัยทุกคนก็ร่วมมือกัน ไม่ควรที่ใครจะมาดูแคลนบ้านคนไทย ดูแคลนบ้านเกิดเมืองนอนของตน
ส่วนคนที่ยังเข้าใจคลาดเคลื่อน สื่อสารออกไปไม่ตรงกับความเป็นจริง ก็เชื่อว่าความจริงเหล่านี้ จะทำให้สบายใจ และหันมาร่วมมือกับคนส่วนใหญ่ของประเทศ

ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี แจงเหตุมีความจำเป็นในการตั้งโรงพยาบาลสนาม เพื่อแยกผู้ป่วยโควิด-19 ออกจากผู้ป่วยปกติ ไม่ให้มีความเสี่ยง เป็นอันตราย ขณะนี้หลายพื้นที่มีการเสียสละ ไม่มีใครต่อต้านแล้ว ทำให้การจัดตั้งโรงพยาบาลสนามเพิ่มขึ้น ตามความจำเป็นของสถานการณ์ และยังได้รับความร่วมมือจากเอกชนที่สนับสนุนพื้นที่ จึงขอขอบคุณประชาชน และพร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกส่วนที่ช่วยกันเสียสละ ทุ่มเทรับความเสี่ยงไปด้วย ขอให้ประชาชน เจ้าหน้าที่ และทุกคนปลอดภัย นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลจะได้สบายใจขึ้น

ขอขอบคุณ
แหล่งที่มา : INNnews


แชร์ข่าวนี้