ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปที่บ้านเลขที่ 94 หมู่บ้านหัวบึง ม.14 ต.มะค่า อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา พบกับ น.ส.รัตนาวดี อายุ 26 ปี ซึ่งกำลังวิดีโอคอลคุยกับ น.ส.แดง อายุ 47 ปี ผู้เป็นแม่ ซึ่งเป็นแรงงานไทยที่ไปทำงานเป็นพนักงานนวด ที่เมืองอันตัลยา ประเทศตุรกี โดยได้สอบถามถึงเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ซึ่ง น.ส.แดง บอกว่า เมืองที่ตนเองอยู่นั้น อยู่ไกลจากจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหว เดินทางประมาณ 6 ชั่วโมง
โดยในช่วงเกิดแผ่นดินไหว เป็นเวลาประมาณ 04.00 น. ซึ่งสามารถรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนอยู่พอสมควร แต่ตอนนั้นก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะที่ประเทศตุรกีจะเกิดเหตุแผ่นดินไหวบ่อยมาก แทบจะทุกต้นปีเลยก็ว่าได้ เพียงแต่ว่าครั้งนี้รุนแรงกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา ตนเองมารู้อีกทีก็เวลาประมาณ 6 โมงเช้า เนื่องจากมีการเกิดอาฟเตอร์ช็อกตามมาหลายครั้ง เมื่อรู้ว่ามีผู้เสียชีวิตจำนวนหลายพันคน ทำให้ตนเองรู้สึกตกใจและกลัวมาก
ซึ่งทางการก็แจ้งให้คนในเมืองเฝ้าระวังตลอดเวลา เนื่องจากเมืองที่ตนเองอาศัยอยู่นี้ ก็ค่อนข้างมีประชากรอาศัยอยู่หนาแน่นมากเหมือนกัน ซึ่งไม่รู้ว่าจะเกิดแผ่นดินไหวที่นี่ด้วยหรือไม่ ขณะเดียวกันตนเองก็ติดตามจากเฟซบุ๊ก ของเพื่อนชาวไทยที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เกิดแผ่นดินไหว ซึ่งมีการโพสต์รายงานความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับสอบถามสถานการณ์ตลอดเวลา ทั้งนี้ตนเองมาทำงานอยู่ที่ตุรกีกว่า 10 ปีแล้ว
ยังไม่เคยเห็นเหตุแผ่นดินไหวใหญ่เช่นนี้มาก่อนเลย ครั้งนี้ถือว่าหนักสุดตั้งแต่เคยเกิดแผ่นดินไหวในตุรกี แต่หลังจากเกิดเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่แล้ว ตนเองก็ได้วิดีโอคอลมาบอกลูกๆ ทั้ง 3 คนที่อยู่ในเมืองไทยว่า ไม่ต้องเป็นห่วง แม่ปลอดภัยดี ที่ทำงานก็ยังเปิดให้บริการลูกค้าตามปกติ และไม่ได้คิดจะกลับไปเมืองไทยในตอนนี้ ซึ่งปกติก็จะกลับไปเยี่ยมลูกๆ ทุกปีๆ ละ 1 ครั้งช่วงซัมเมอร์ และขออวยพรให้คนไทยที่อยู่ในตุรกีปลอดภัยกันทุกคน
ขอขอบคุณ
แหล่งที่มา : INNnews