พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงภายหลังการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลังเปิดภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ และตรวจด่านเข้า-ออก ท่าฉัตรไชย ว่า จากการรับฟังข้อมูลที่ผ่านมาถือว่าเป็นที่น่าพอใจ และเป็นกำลังใจให้กับชาวจังหวัดภูเก็ต และมีการรายงานว่ามีเที่ยวบินเริ่มทยอยเข้ามาแล้วจากอาบูดาบี และมีการใช้ต่อมาเป็นระยะ โดยจากวันนี้ไปจนถึง 14 วันข้างหน้าและไตรมาสต่อไปก็ดีมากขึ้น หากทำตรงนี้สำเร็จ ไม่ได้สำเร็จโดยใคร แต่สำเร็จโดยคนไทย ทุกคนคนก็คนไทย ทำภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ได้ก็สามารถขยายพื้นที่อื่นได้ ซึ่งได้สั่งแนวทางว่าจะนำไปใช้เป็นแซนด์บ็อกซ์กับที่อื่นได้หรือไม่ ในทุกภาคก็มีการท่องเที่ยว ต้องไปทีละขั้น ทุกอย่างต้องมีการเริ่มต้นนับหนึ่งเสมอ เปิดโครมทีเดียวมีปัญหาหมดเพราะการสัญจรไปมาคือปัญหา จึงจำเป็นต้องเร่งรัด ซึ่งภูเก็ตน่าจะมีศักยภาพอยู่แล้วและมีพื้นที่เล็ก และสามารถควบคุมได้ สามารถการสัญจรไปมาทางรถทางอากาศทางเรือก็สามารถควบคุมได้ โดยอาจขอความร่วมมือ อาจมีความเดือดร้อนกับประชาชนที่อาศัยอยู่ทั่วไปบ้าง แต่ละจังหวัดแต่ละพื้นที่ต้องเชื่อมโยงหลายอย่าง เพราะฉะนั้นการเปิดธุรกิจไม่ใช่เรื่องของภูเก็ตอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องของทั้งประเทศ ทุกจังหวัดที่จะต้องมีการเริ่มนำร่องเพื่อความเหมาะสม หากมองดูประสิทธิภาพของมาตรการและขั้นตอนต่างๆ ประเทศไทยต้องเดินไปในข้างหน้า 120 วันตามที่ตนพูด ตรงไหนเปิดได้เปิดเมื่อไหร่ทำได้ทำ ก็ฉะนั้นตัวอย่างเกิดขึ้นอย่างนี้จึงเรียกว่าจะบ็อกซ์ จะเห็นได้ว่าจะเห็นประเทศในยุโรป มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นมาอีก ประเทศที่เคยเป็น จำนวนนักท่องเที่ยวมาเที่ยวประเทศไทยจำนวนมากในทุกปี วันนี้มีสถิติเข้ามาอีกนี่คือลูกค้าเรา ตนไม่ขอเอ่ยชื่อประเทศ แต่เราจะประมาทได้หรือไม่ เพราะฉะนั้นเราต้องรอบคอบ ทำอะไรก็ตามนึกถึงชีวิตประชาชนเสมอ แต่เศรษฐกิจก็ต้องเดินไปด้วยเดินอย่างระมัดระวังเดิน อย่างผ่อนคลาย แต่ถ้าไม่ปฏิบัติตามคำสั่งก็ต้องมีมาตรการ มีอย่างเดียวคือกฎหมาย หากไม่มีสักอย่างก็อยู่ไม่ได้
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังระบุอีกว่า สถิติการติดเชื้อในบางประเทศ ทำให้ประเทศต่างๆ ต้องกลับมาใช้มาตรการควบคุมโรคซ้ำอีก เปิดแล้วก็ปิด นี่คือความเสี่ยงว่าจะยอมรับฟังได้หรือไม่ แต่ให้ประชาชนคนไทยได้ทำมาหากินได้บ้าง สิ่งสำคัญที่สุดคือรับไว้ ไม่รับความเสี่ยงได้ไหม หากทำได้ก็ทำต่อไปเป็นขั้นเป็นพื้นที่ไป
ขอขอบคุณ
แหล่งที่มา : INNnews
