อุทาหรณ์ ก้มหยิบโทรศัพท์ขณะขับรถ ชน 3 คันรวด

191
แชร์ข่าวนี้

พ.ต.ท.กำพล แก่นอินตา สว.สอบสวน สภ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี รับแจ้งอุบัติเหตุรถยนต์กระบะชนท้ายรวม3คันมีผู้ได้รับบาดเจ็บเหตุเกิดขึ้นที่บนถนนสายสระบุรี-หล่มสัก ฝั่งขาออกจากตัวตลาดลำนารายณ์มุ่งหน้าสระบุรี บริเวณหมู่บ้านคลองนารายณ์ ต.ชัยนารายณ์ อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยพ้งไล้16ลำนารายณ์

โดยที่เกิดเหตุเป็นถนนคู่ขนานฝั่งขาออกจากตัวตลาดลำนารายณ์มุ่งหน้าสระบุรีที่ไหล่ทางด้านซ้ายมือพบรถยนต์กระบะเฉี่ยวชนกันได้รับความเสียหายพังยับเยินซากติดทับคากันรวม3คัน โดยคันแรกหน้าสุดเป็นรถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิซิ สีเทาหมายเลยทะเบียน กำแพงเพชร มีนายวิรัตน์ อายุ 30 ปีเป็นผู้ขับขี่ ถูกชนท้ายรถพุ่งขึ้นไปบนเนินดินข้างทาง

ส่วนคันที่2เป็นรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุสีดำ หมายเลขทะเบียน พระนครศรีอยุธยา มีนายคันธบัตร อายุ39 ปี เป็นผู้ขับขี่ รถอยู่ในสภาพด้านหน้าชนมุดเข้าไปใต้ท้องคันหน้าพังยับเยินส่วนที่ท้ายรถถูกชนพังยับเยินทั้งด้านหน้าและท้ายรถและส่วนคันที่3ที่ก่อเหตุเป็นรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุสีเทา หมายเลขทะเบียน พิษณุโลก ซึ่งมีนายไพศาล อายุ 48 ปี ชาวจ.ลพบุรีเป็นผู้ขับขี่ โดยสภาพรถยนต์ด้ายหน้าพุ่งชนเข้าที่ท้านรถยนต์กระบะคันที่2เข้าอย่างจังพังยับเยิน

จากการสอบสวนในเบื้องต้นนายคันธบัตร คนขับรถยนต์คันที่2ซึ่งถูกชนเล่าว่าตนเองเป็นช่างก่อสร้างวางท่อไฟฟ้าใต้ดิน โดยก่อนเกิดเหตุช่วงเช้าตนเองและคนงานก่อสร้างเกือบ10คนขับรถยนต์กระบะจำนวน2คันมาจอดริมถนนข้างทางจุดเกิดเหตุตามปกติแล้วลงไปทำงานข้างทาง

ทันใดนั้นได้มีรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุสีเทา หมายเลขทะเบียน พิษณุโลก ซึ่งมีนายไพศาล เป็นผู้ขับขี่ได้ขับมาด้วยความเร็วก่อนพุ่งชนท้ายรถของตนทั้ง2คันเสียงดังสนั่นและเป็นจังหวะเดียวกันที่น.ส.นารินทร์ อายุ36 ปี คนงานได้เดินกลับไปหยิบของที่รถจึงถูกชนได้รับบาดเจ็บและเจ้าหน้าที่ก็ภัยเร่งนำตัวส่งร.พ.ชัยบาดาล

นายคันธบัตรยังเปิดเผยต่ออีกว่าจากการพูดคุยกับนายไพศาลตนขับรถที่ก่อเหตุยอมรับว่าก่อนเกิดเหตุขณะที่กำลังขับรถมาตามทางแล้วได้ก้มลงหยิบโทรศัพย์มือถือแต่พอเงยหน้าขึ้นมาก็พบว่ารถได้เบี่ยงลงข้างทางซ้ายมือก่อนพุ่งชนท้ายรถยนต์กระบะที่จอดอยู่ข้างทางได้รับความเสียหายและมาผู้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ซึ่งในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สอบสวนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ขอขอบคุณ
แหล่งที่มา : INNnews


แชร์ข่าวนี้