จากกรณี นางสาวเดือนฉาย อายุ 27 ปี ชาว จ.พระนครศรีอยุธยา ได้ติดต่อเข้าร้องเรียนสื่อมวลชน ระบุว่าวันนี้เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. น้องต้นกล้า อายุ 1 เดือน บุตรชายของตนเอง มีอาการท้องเสีย โดยมีอุจจาระปนเลือด จึงได้รีบพาบุตรชายมารักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัด ต่อมาหมอที่รักษาบอกว่าบุตรชายต้องนอนดูอาการที่โรงพยาบาลก่อน เพื่อจะหาสาเหตุของอาการที่เกิดขึ้น ตนจึงให้บุตรชายนอนดูอาการที่โรงพยาบาล
โดยตนเองและสามีคอยดูแลอยู่อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเวลาประมาณ 14.00 น. ตนเองและสามีได้กลับไปเอาของใช้ของบุตรชายที่บ้านพัก โดยให้ย่าเป็นคนดูแล ระหว่างที่อยู่ที่บ้านพักนั้นได้มีหมอที่รักษา โทรมาสอบถามอาการของบุตรชายว่าเป็นอย่างไร ตนจึงเล่าให้หมอฟังจากนั้นก็รีบกลับมาที่โรงพยาบาลเพื่อที่จะมาพบหมอ
เมื่อมาถึงก็พบกับหมอที่รักษาก็ได้รับแจ้งจากคุณหมอว่าบุตรชายมีอาการติดเชื้อจริง ต้องให้นอนโรงพยาบาลประมาณ 1 อาทิตย์ เพื่อจะให้ยาฆ่าเชื้อกับบุตรชายต่อมาเวลาประมาณ 17.00 น. ตนกำลังอุ้มให้นมบุตรชายอยู่ ก็เห็นพยาบาลนำยาฆ่าเชื้อมาบอกว่าจะฉีดยา ให้กับบุตรชาย
สักพักหนึ่งตนจึงให้พยาบาลทำการฉีดยาให้ปรากฏว่าหลังจากฉีดยาประมาณ 1 นาที ก็เห็นว่าบุตรชายมีอาการช็อกปากดำลำตัวเขียว แขนและขาห้อยลงทันที ตนตกใจและร้องไห้ว่าทำไมบุตรชายถึงมีอาการแบบนี้ จึงรีบแจ้งพยาบาลให้การช่วยเหลือแต่หลังจากนั้นผ่านไปประมาณ 30 นาที ตนเองก็ได้รับแจ้งจากหมอว่าบุตรชายมีอาการไม่ดีขึ้นให้แม่ทำใจ เอาไว้ มีเพียง 20 % ที่น้องจะรอด เพราะมีการปั๊มหัวใจน้องหลายครั้งจนร่างกายน้องเหมือนบอบซ้ำ
จากนั้นหมอก็แจ้งกับตนเองว่าจะต้องย้ายน้องไปที่ห้องไอซียู ตึกคลอด พอเวลา 19.00 น. ตนเองก็ได้รับแจ้งจากหมอว่าบุตรชายมีอาการไม่ดีสำลักน้ำนมถึงแก่ความตาย ตนเอง สามี และญาติแทบใจสลายและเสียใจเป็นอย่างมาก กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ตนเองสงสัยว่าไม่น่าจะเกิดจากการสำลักนม แต่สงสัยว่าน่าจะเกิดจากการฉีดยาของพยาบาล ที่ทำให้บุตรชายของตนเองเสียชีวิต ทั้งที่บุตรชายของตนเองนั้นแค่ท้องเสียแต่ทำไมถึงต้องมาเสียชีวิต จึงอยากให้ทางโรงพยาบาล ออกมาแสดงความรับผิดชอบ ซึ่งตนเองและครอบครัวเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ล่าสุด (15 ต.ค.63) นพ.พีระ อารีรัตน์ สาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นพ.กิตติชัย ปักธงไชย รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ ได้มีการแถลงข่าวชี้แจ้งกรณีการเสียชีวิตของน้องต้นกล้า ที่โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา ระบุว่า
นพ.พีระ อารีรัตน์ สาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ต้องขอแสดงความเสียใจ กับครอบครัวของน้องต้นกล้า แพทย์และพยาบาล มีความตั้งใจที่จะดูแลรักษาผู้ป่วยทุกรายอย่างเต็มความสามารถ ทางสาธารณสุขจังหวัด โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปร่วมงานศพ แสดงความเสียใจพูดคุยทำความเข้าใจกับทางครอบครัว เยียวยาสภาพจิตใจ พร้อมกับแจ้งสิทธิ์ ในการใช้มาตรา41 เป็นกรณีที่ได้รับความเสียหายจากการรักษาพยาบาลของโรงพยาบาล จะชดเชยเยียวยาเป็นเงิน 400,000 บาท
ส่วนอาการป่วยของต้นมาจากสาเหตุของลำไส้อักเสบ แพทย์จึงต้องทำการฉีดยาฆ่าเชื้อ สำหรับเด็กโดยเฉพาะ ยังไม่เคยพบว่าการใช้ยาฆ่าเชื้อทำให้เกิดการเสียชีวิต ส่วนผลการเสียชีวิต รอผลการตรวจชันสูตร จากสถานบันนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งต้องใช้เวลาประมาณ 3 สัปดาห์ พร้อมกันนี้ทางสาธารณสุขจังหวัดมีการ สอบสวนตรวจสอบขั้นตอนการรักษาของแพทย์ พร้อมกันไปด้วยเพื่อให้ความเป็นธรรมกับทางครอบครัวของผู้เสียชีวิตด้วย
ขอขอบคุณ
แหล่งที่มา : sanook
