สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ทางการจีนได้เลือกเขตนำร่อง 15 เขต และอีกหลายพื้นที่ที่จะเข้าร่วมในโครงการใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน อ้างอิงจากแถลงการณ์ของสำนักงานไซเบอร์สเปซของจีน
โดยเขตนำร่องของโครงการนี้จะรวมถึงเขตการปกครองในเมืองใหญ่ ๆ เช่น กรุงปักกิ่ง นครเซี่ยงไฮ้ เมืองกวางโจวและเมืองเฉิงตู นอกจากนี้ยังรวมถึงนิติบุคคลอีก 164 แห่ง เช่น โรงพยาบาล มหาวิทยาลัย และบริษัทขนาดใหญ่ต่าง ๆ ทั้งในภาคการเงิน การพลังงาน และอุตสาหกรรม เป็นต้น
แถลงการณ์ของสำนักงานไซเบอร์สเปซของจีนระบุว่า พื้นที่และภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ จะมีบทบาทสำคัญในเทคโนโลยีบล็อกเชนของจีนในการแบ่งปันข้อมูล การลดต้นทุนการดำเนินงาน และการร่วมสร้างระบบที่น่าเชื่อถือ
เมื่อเดือนตุลาคม ปี ค.ศ. 2019 ประธานาธิบดีจีนสี จิ้นผิง กล่าวว่า จีนควรเร่งพัฒนาเทคโนโลยีบล็อกเชนให้เป็นหัวใจของการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่
อย่างไรก็ตาม แม้จีนกำลังสนับสนุนเทคโนโลยีบล็อกเชน แต่ยังคงห้ามการขุดหาและทำธุรกรรมผ่านบิตคอยน์ซึ่งใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน นอกจากนี้เมื่อเดือนกันยายน ทางการจีนยังใช้มาตรการห้ามซื้อขายและขุดหาเงินดิจิทัล หรือคริปโต ทุกประเภทอีกด้วย
