โอละพ่อ นักข่าว-กู้ภัยยอมอดข้าว รุดช่วยรถพ่วงตกคลองส่งน้ำ ไปถึงมึนเจอแต่ซาเล้ง

สื่อสารผิดนิดหน่อย… นักข่าว-กู้ภัยฯ ยอมอดข้าว  รีบไปตรวจสอบเหตุรถพ่วงตกคลองส่งน้ำ ที่ไหนได้กลายเป็นรถพ่วงข้าง

เมื่อช่วงเย็น วันที่ 25 มิถุนายน 2566 ศูนย์วิทยุกู้ชีพปราการได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถพ่วงเสียหลักตกลงไปในคลองส่งน้ำสุวรรณภูมิ ตำบลบางปลา อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงประสานเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งเดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุ

หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พร้อมนักข่าวภาคสนาม เร่งเดินทางตรวจสอบเพื่อให้ช่วยเหลือ พอไปถึงที่เกิดเหตุมีชาวบ้านยืนอยู่ริมถนน จึงได้สอบถามถึงจุดที่รถพ่วงตกลงไปในคลอง ชาวบ้านจึงชี้ไปที่ริมคลอง พบ นางบรม พาโส อายุ 39 ปี และลูกชายยื่นอยู่ริมคลอง ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ สีแดง จมน้ำไปขึ้นคัน อยู่ริมคลอง เจ้าหน้าที่มูลนิธิจึงประสานรถกู้ภัย มาใช้รอกไฟฟ้าที่ติดอยู่หน้ารถกู้ภัย ไปเกี่ยวกับรถพ่วงข้างแล้วลากรถขึ้นมา

จากการสอบถาม นางบรม เจ้าของรถพ่วงข้าง เล่าว่า ตนเองจอดรถพ่วงข้างบริเวณริมถนน ซึ่งตนเองก็จอดอยู่ประจำ แต่มาวันนี้มีรถพ่วงขับผ่านมาทำให้แรงลม พัดรถพ่วงข้างของตนเองไหลลงคลองไปเลย แต่ยังดีที่ตนเองกับลูกชายไม่ได้อยู่บนรถพ่วงข้าง ไม่งั้นคงได้รับบาดเจ็บแน่นอน

จากการสอบถาม นายฐาดนัย มีศรี อาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิปอเต็กตึ๊ง ประจำจุด สภ.บางพลี เล่าว่า ตนเองได้รับแจ้งว่ามีรถพ่วงตกคลองส่งน้ำสุวรรณภูมิ หลังจากรับแจ้งจึงรีบเดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ พอมาถึงพบว่าเป็น รถพ่วงข้าง หรือ ซาเล้ง ซึ่งไม่ใช้รถพ่วงตามที่ตนเองเข้าใจว่าเป็นรถบรรทุกพ่วง

ส่วนนักข่าวหนุ่มที่นั่งมาในรถกู้ภัยด้วย นายพงศกร รอดภัย เล่าว่า ตนเองกับกู้ภัยได้รับแจ้งเหตุดังกล่าว จึงรีบเดินทางมาตรวจสอบเหตุดังกล่าว ก็พบว่าเป็นรถพ่วงข้างตกลงไปในคลองส่งน้ำ แต่ตนเองก็ดีใจว่าเหตุการณ์ดังกล่าวนั้น ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด