เฮ! ลดราคาน้ำมันดีเซลเหลือ 30 บาท เริ่ม 20 ก.ย. และลดค่าไฟเหลือ 4.10 บาท

3489
แชร์ข่าวนี้

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึงเรื่องปรับลดราคาพลังงานต่อที่ประชุม ครม. ทันทีหลังเสร็จการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาเมื่อวาน (13 ก.ย. 66)

ครม. รับทราบและเห็นชอบกับแนวทางของกระทรวงพลังงานและกระทรวงการคลัง ที่กำหนดให้น้ำมันดีเซลราคาไม่ให้เกินลิตรละ 30 บาท เบนซินเบื้องต้นจะร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ตรวจสอบควบคุมค่าการตลาดไม่ให้เกิน 2 บาทต่อลิตรตามมติคณะกรรมการบริหารพลังงานอย่างจริงจัง ก็จะทำให้ราคาเบนซินลดลงได้ในระดับหนึ่ง และจะร่วมกับกระทรวงการคลังพิจารณาปรับลดราคาเบนซินให้กลุ่มที่จำเป็นต้องใช้เบนซินเพื่อการประกอบอาชีพที่เรียกว่ากลุ่มเปราะบาง เช่น มอเตอร์ไซค์ รับจ้าง และแท๊กซี่ โดยเร่งด่วนต่อไป ส่วนไฟฟ้าปรับลดจากราคาหน่วยละ 4.45 บาทเหลือ 4.10 บาท

โดยจะดำเนินการเพิ่มเติมในส่วนอื่นที่เกี่ยวข้องต่อไปอีกเพื่อหาทางปรับลดราคาค่าไฟฟ้าให้เหลือไม่เกินหน่วยละ 4 บาท ส่วนก๊าซหุงต้มตามแนวโน้มตลาดโลกจะขึ้นทุกปลายปีเพราะเป็นช่วงฤดูหนาวจะทำให้ราคาก๊าซหุงต้มในประเทศไทยสูงตามไปด้วย แต่เราจะตรึงราคาไว้ที่ 423 บาทสำหรับถังขนาด 15 กิโลกรัม ราคาเดิมต่อไป

ทั้งหมดนี้ไม่เพียงเป็นนโยบายของพรรค รทสช. เท่านั้น แต่เผอิญตรงกับนโยบายของท่านนายกรัฐมนตรีด้วย จึงสามารถดำเนินการให้เป็นจริงได้อย่างรวดเร็ว ต้องขอบคุณนายกรัฐมนตรีและ ครม. ทุกท่านด้วย แม้เรื่องนี้ในเบื้องต้นจะเป็นมาตรการระยะสั้น แต่เราก็ลงมือทำทันทีดีกว่าไม่ทำอะไรเลย

ขอให้มั่นใจว่าผม กระทรวงพลังงาน กระทรวงการคลัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะหาแนวทางและมาตรการอื่นๆ ต่อไปเพื่อทำให้ราคาพลังงานอยู่ในระดับที่เหมาะสมและเป็นธรรมกับประชาชน และเพื่อสร้างเสถียรภาพความมั่นคงและระบบเศรษฐกิจของประเทศอย่างยั่งยืนให้ได้

ด้านนายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี แถลงหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ครั้งแรกของรัฐบาลชุดใหม่ วันที่ 13 ก.ย. 66 โดย ครม. มีมติเห็นชอบปรับลดอัตราค่าไฟฟ้าที่ประกาศเรียกเก็บกับผู้ใช้ไฟฟ้ารอบเดือน ก.ย.-ธ.ค. 66 ในอัตรา 4.45 บาทต่อหน่วย ลงเหลือในอัตรา 4.10 บาทต่อหน่วย แล้วนั้น สำนักงาน กกพ. ได้รายงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เพื่อทราบมติ ครม. ดังกล่าวแล้ว โดย กกพ. จะเร่งปฏิบัติตามมติ ครม. โดยเร็วเพื่อไม่ให้ประชาชนเสียประโยชน์

“สำนักงาน กกพ. จะเร่งหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กฟผ. กฟน. กฟภ. และ ปตท. เพื่อพิจารณาแนวทางการดำเนินการให้ตรงตามเจตนารมณ์ในมติ ครม. โดยคาดว่าจะดำเนินการนำเสนอ กกพ. ให้แล้วเสร็จและมีผลบังคับใช้ภายในหนึ่งสัปดาห์หลังจากนี้” นายคมกฤช กล่าว

โดยก่อนหน้านี้ มติที่ประชุมคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เมื่อวันที่ 26 ก.ค. 66 ได้มีมติเห็นชอบค่าเอฟทีเรียกเก็บงวดเดือน ก.ย.– ธ.ค. 66 จำนวน 66.89 สตางค์ต่อหน่วย (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยเรียกเก็บในงวดอยู่ที่ 4.45 บาทต่อหน่วย และให้มีผลตั้งแต่รอบบิลเดือนกันยายน 2566 เป็นต้นไป

ขอขอบคุณ
แหล่งที่มา : sanook


แชร์ข่าวนี้