หดหู่ใจ ชาวบ้านชุมนุมไล่ผู้ป่วยโควิด-19 ออกจากสถานพยาบาล อ้างกลัวแพร่เชื้อใส่ชุมชน

217
แชร์ข่าวนี้

วานนี้ (27 มี.ค.63) ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Frank Sathapat โพสต์ภาพเหตุการณ์ชุลมุน หน้าสถานพยาบาลแห่งหนึ่งย่านบางบอน ระบุข้อความว่า

“วันนี้เป็นวันที่เหนื่อยมากมีเหตุทั้งวัน ชีวิตตำรวจเสี่ยงมากช่วงนี้ อะไรที่ไม่คิดว่าจะเจอในสถานการณ์บ้านเมืองแบบนี้ก็เจอ สงสารเจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์ไม่ว่าจะหมอพยาบาลมาก เหนื่อยกับงานที่ทำภายใต้ความขาดแคลนยังมาเจอความไม่รู้ของชาวบ้านอีก เนื่องจากมีผู้ป่วยติดโควิด-19 ถูกส่งมารักษาตัวในสถานพยาบาลแห่งหนึ่งในเขตพื้นที่รับผิดชอบของผม ชาวบ้านรู้เข้าก็เกิดอาการกลัว อ้างว่าอยู่ใกล้กับบ้านตน มารวมตัวขับไล่ให้ส่งผู้ป่วยออกไปที่อื่นภายในวันนี้ ซึ่งสถานพยาบาลก็อุตส่าห์รับปากว่าจะส่งผู้ป่วยออกในตอนเช้าแต่ชาวบ้านก็ไม่ฟัง ผมสงสารผู้ป่วยและเจ้าหน้าที่จริงๆ เจ้าหน้าที่ตำรวจบอกคุณก็ตะแบงกัน เหนื่อยจังเลยวันนี้ ขอส่งกำลังใจให้ทีมแพทย์ พยาบาล ผู้ช่วยฯ ทุกท่านนะครับ อยากให้มีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบว่ามันไม่ติดกันง่ายขนาดนั้น จะไล่เขาไปแล้วจะให้เขาไปอยู่ไหน คนกลัวก็กลัวจริงๆ มีบอกจะให้กักตัวเจ้าหน้าที่ด้วย แล้วงี้ถ้าพวกเราป่วยแพทย์พยาบาลที่ไหนเขาจะดูแลเรา ทั้งที่ตอนเอามาเขาใส่ชุดป้องกันไว้และมันไม่ได้ติดง่ายขนาดนั้นสถานการณ์ตอนนี้ของประเทศไทยต้องการความร่วมมือของภาคประชาชน เจ้าหน้าที่ทำงานกันเต็มที่ ไม่ต้องให้กำลังใจเขาก็ได้ แค่ไม่ทำให้พวกเขางานหนักไปมากกว่านี้ก็พอ”

อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 23.00 น. ได้มีรถพยาบาลของสำนักการแพทย์กรุงเทพมหานคร นำรถพยาบาลพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ขับเข้ามารับผู้ป่วยรายดังกล่าวออกไป เหตุการณ์จึงคลี่คลาย

ขณะที่ แฟนเพจ Drama-addict ได้ระบุถึงกรณีดังกล่าวว่า “มีข่าวคนในบางชุมชนลุกฮือออกมาขับไล่คนป่วยที่กักกันโรคและครอบครัวให้ออกจากชุมชน เพราะกลัวว่าคนอื่นในชุมชนจะติดเชื้อ ก็ฝากถึงพ่อแม่พี่น้องว่า ไม่ต้องกังวลจนแตกตื่นขนาดนั้น รัศมีการติดต่อของโรคนี้ มันแค่สองเมตร ถ้าไม่ได้เข้าไปในบ้านที่มีการกักกันโรคและให้เขาไอจามใส่หน้าในรัศมี 1 เมตร ไม่ติดโรคง่าย ๆ หรอก

และคิดดูว่าถ้าขับไล่คนป่วยที่กักโรคอยู่ออกจากบ้าน ให้เขาระหกระเหินไปหาที่กักกันใหม่ ระหว่างเคลื่อนย้ายมันจะเสี่ยงเพิ่มขนาดไหน จังหวะนี้ขอให้ทำอะไรโดยมีสติ อย่าแตกตื่นฟังข่าวลือจนตื่นกลัวกัน อีกอย่างบางชุมชน มีคนป่วยและครอบครัวแจ้งมาว่า พอพวกเขารู้ว่าเป็นเคสเสี่ยงก็รีบกักโรคดูอาการทันที แทนที่สังคมจะชื่นชม ดันมีคนเอาไปนินทาว่าเป็นตัวแพร่เชื้อเสียงั้น แบบนี้ไม่ดีนะ”


แชร์ข่าวนี้