ศบค.ชุดใหญ่เตรียมประชุม26พย.นี้ ยังจับตา สงขลา,ตรัง,นครฯพบผู้ติดเชื้อเกิน 100 รายต่อวัน

193
แชร์ข่าวนี้

แพทย์หญิงอภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. กล่าวว่า สัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์ที่สำคัญทั้งเรื่องตัวเลขผู้ติดเชื้อ, ผู้เสียชีวิต รวมทั้งมาตรการการกำกับติดตามนักท่องเที่ยวที่เข้ามาประเทศไทย ซึ่งในวันศุกร์นี้(26พ.ย.64) จะมีการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ซึ่งต้องจับตาว่าจะมีมาตรการใดบ้างที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์นี้

ด้านทิศทางผู้ป่วยทั่วโลกองค์การอนามัยโลกได้ทราบการติดเชื้อในพื้นที่อเมริกามีการขยายการติดเชื้อสั่งประเทศยุโรปตะวันออกมีปัญหาประชากรฉีดวัคซีนไม่ควบคุมทำให้ติดเชื้อสูงตายสูงและป่วยหนักสูง ด้านยุโรปตะวันออกมีการฉีดวัคซีนครอบคลุมแต่ยังลดอัตราการติดเชื้อไม่ได้ ซึ่งประเทศไทยติดตามสถานการณ์ประเทศยุโรปอเมริกาอย่างใกล้ชิดเนื่องจากนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในประเทศไทยส่วนใหญ่มาจากอเมริกาและยุโรปเป็นหลัก

สำหรับการตรวจหาเชื้อด้วย ATK ค่าเฉลี่ยทั่วประเทศอยู่ที่ 3-4% พื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล พบป่วย 815 ราย คิดเป็น 14% ซึ่งผลตรวจมีแนวโน้มลดลงทั้งหมด ส่วนการเฝ้าระวังจังหวัดที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิดจากการพบผู้ติดเชื้อเกิน 100 รายต่อวันและมีผลตรวจ ATK มากกว่า 5% คือ จังหวัดสงขลา, ตรัง, สุราษฎร์ธานี, กระบี่และนครศรีธรรมราช ซึ่งบางจังหวัดเป็นพื้นที่นำร่องท่องเที่ยวด้วย ส่วนจังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อมีแนวโน้มสูงขึ้น คือจังหวัดเชียงใหม่ รวมถึงจังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อน้อยกว่า 100 รายต่อวัน แต่มีแนวโน้มผู้ป่วยสูงขึ้นซึ่งกระทรวงสาธารณสุขเฝ้าจับตามองอย่างใกล้ชิด คือ จังหวัดเชียงราย, ลำพูน, พิษณุโลกและสิงห์บุรี

โดยกทม.ได้มีการสำรวจสถานบันเทิงที่ขึ้นทะเบียนกับกทม. มีจำนวน 1,443 แห่ง ซึ่งหากไม่ได้ขึ้นทะเบียนให้รีบติดต่อขึ้นทะเบียนเนื่องจากสัปดาห์นี้ กทม. จะทำการสำรวจสถานบันเทิงและกิจการลักษณะใกล้เคียงเบื้องต้นทำการสำรวจแล้ว 975 แห่ง และแนะนำให้รีบไปดูรายละเอียดใน Thai Stop Covid Plus ในเว็บไซต์ของกรมอนามัย เพื่อศึกษาข้อปฏิบัติทำให้ปลอดภัย หากยังทำไม่ได้ไม่เป็นไร ยังมีเวลาให้ปรับสถานการณ์ให้คงที่ขึ้นเพื่อเปิดกิจการกิจกรรมได้

อย่างไรก็ตามยังมีนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศมีการปฏิเสธการสวมใส่หน้ากากอนามัย รวมถึงสังสรรค์เป็นกลุ่มทำให้เกิดการติดเชื้อ ซึ่งได้มีการตักเตือนและขอความร่วมมือแล้ว

ขอขอบคุณ
แหล่งที่มา : INNnews


แชร์ข่าวนี้