นายประวิทย์ ผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ได้พาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ดูจุดที่ถูกคนร้ายแกะเหล็กดัด บริเวณหน้าต่างร้านค้าสหกรณ์ของโรงเรียน แล้วถอดกระจกบานเกล็ดออก เพื่อลักลอบเข้าไปลักทรัพย์ภายในสหกรณ์ ของโรงเรียน โดยได้สิ่งของทั้งข้าวสาร และเครื่องใช้ในการอุปโภคและบริโภคประเภทต่างๆ
นายประวิทย์ กล่าวว่า กล้องวงจรปิดของโรงเรียนสามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ของเด็กชาย อายุประมาณ 11 – 13 ปี จากนั้นกล้องวงจรปิดก็ถูกทุบทำลาย จึงแจ้งให้กำนันทราบและนำหลักฐานเท่าที่กล้องวงจรปิดบันทึกภาพได้ไปแจ้งความที่สภ.น้ำพอง ให้ติดตามจับกุมคนร้ายที่ลักลอบเข้ามาก่อเหตุลักทรัพย์ในร้านสหกรณ์ ซึ่งสิ่งที่หายไปเป็นข้าวสาร 1 ถุง น้ำหนักประมาณ 10 กิโลกรัม นมสด ผงชูรส น้ำมันพืช ขนมและอื่น ๆ รวมมูลค่าประมาณกว่า 2,400 บาท
ขณะที่ นายฉัตรชัย โลหะมาตย์ ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอ.น้ำพอง จังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า ผู้บริหารโรงเรียนโทรศัพท์มาขอความช่วยเหลือ หลังพบว่ากล้องวงจรปิดของทางโรงเรียนถูกทำลายและร้านค้าสหกรณ์โรงเรียนยังถูกคนร้าย งัดเข้าไปขโมยสิ่งของ จึงเดินทางไปยังจุดเกิดเหตุพร้อมเปิดดูกล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพของเด็กไว้ได้
ก่อนที่จะทำลายกล้องวงจรปิด จนได้เบาะแส ว่าผู้ก่อเหตุเป็นเด็กอายุ อายุ 11 – 13 ปี จากนั้นฝ่ายปกครองจึงได้นำกำลังตามไปพบตัวเด็กๆจำนวน 6 คน ขณะกำลังนั่งกินขนมที่ขโมยมาอย่างสบายใจที่ศาลากลางบ้าน บ้านหนองกุง จึงได้เชิญผู้ปกครองมาพูดคุยและแจ้งว่าเด็กในความปกครองกระทำผิด
“ซึ่งเยาวชนที่ก่อเหตุทั้งหมดรับสารภาพว่า พวกตนคือแก๊งค์หัวโต๋ ซึ่งเป็นการรวมตัวกันของเด็กในพื้นที่ทั้งหมด 6 คน โดยเด็ก 3 คน อายุ 11 ถึง 13 ปี เด็กม. 6 ต.หนองกุง อ.น้ำพอง รับสารภาพว่า เกิดคึกคะนองจึงตระเวนงัดร้านค้าสหกรณ์ในโรงเรียนหลายแห่ง และยอมรับว่าได้ก่อเหตุที่โรงเรียนดังกล่าวจริง ได้น้ำดื่มและขนมหลายชนิด เด็กๆยังบอกอีกว่า ทำมานานนับปีแล้ว เมื่อคนก่อเหตุยังเป็นเด็กเยาวชน จึงส่งตัวทั้งหมดให้ตำรวจสภ.น้ำพองรับตัวไปสอบสวน และดำเนินคดีตามกฎหมาย”
ขณะที่ พ.ต.อ.พรศักดิ์ งามดี ผกก.สภน้ำพอง กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสภน้ำพอง ได้รับการประสานจาก ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอ.น้ำพอง ว่า พบตัวเด็กที่ก่อเหตุลักทรัพย์นสหกรณ์ของโรงเรียนหลายแห่ง ให้ไปรับตัวเด็ก พร้อมของกลาง ซึ่งเป็นขนมขบเคี้ยว ที่ศาลากลางบ้าน เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไปรับตัวเด็ก ซึ่งยังเป็นเยาวชนมา ก็ต้องแจ้งผู้ปกครองเด็กให้รับทราบ ถึงพฤติกรรมของบุตรว่าก่อเหตุหรือกระทำความผิด ซึ่งผู้ปกครองก็ทราบแล้ว จึงนำเด็กมาที่สภ.น้ำพอง เพื่อที่พนักานสอบสวนจะได้ประสานทีมสหวิชาชีพมาร่วมสอบปากคำ จากนั้นก็จะแจ้งข้อหา ร่วมกันลักทรัพย์ ร่วมกันทำลายสิ่งกีดกั้น จากนั้นก็จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฏหมายต่อไป
ขอขอบคุณ
แหล่งที่มา : INNnews
