สอท.เผยดัชนีเชื่อมั่นอุตฯพย.ดีขึ้นแตะ93.5

186
แชร์ข่าวนี้

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ ส.อ.ท. เปิดเผยผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ประจำเดือนพฤศจิกายน 2565 พบว่า ดัชนีมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 93.5 จากการฟื้นตัวของอุปสงค์ในประเทศ การขยายตัวนักท่องเที่ยวต่างชาติ ขณะที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาสู่ภาวะปกติ ส่งผลดีต่อการบริโภค และการใช้จ่ายในประเทศ

ขณะเดียวกันภาคการก่อสร้างมีทิศทางที่ดีขึ้นภายหลังสถานการณ์น้ำท่วมคลี่คลาย ส่งผลให้ความต้องการสินค้าวัสดุก่อสร้างเพื่อซ่อมแซมที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น ขณะที่ปัญหาขาดแคลนชิปมีทิศทางดีขึ้น ส่งผลดีต่อการผลิตสินค้ายานยนต์ และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ นอกจากนี้ อัตราค่าระวางเรือที่ปรับลดลงส่งผลดีต่อผู้ส่งออก

อย่างไรก็ตามผู้ประกอบการยังมีความกังวลเกี่ยวกับต้นทุนประกอบการที่ปรับตัวสูงขึ้น ทั้งการปรับขึ้นค่าไฟฟ้า ราคาวัตถุดิบ ค่าจ้างแรงงาน รวมถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ส่งผลให้ต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้น ด้านการส่งออกยังมีปัจจัยเสี่ยงจากอุปสงค์จากต่างประเทศลดลงจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัว รวมทั้งจีนยังคงมาตรการ Zero-COVID อย่างต่อเนื่อง ตลอดจนการแข็งค่าของเงินบาท ส่งผลให้ความสามารถในการแข่งขันด้านราคาของผู้ส่งออกลดลง

สำหรับดัชนีฯ คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า อยู่ที่ระดับ 97.0 ปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนหน้า เนื่องจากผู้ประกอบการมีความกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นของต้นทุนการผลิต โดยเฉพาะราคาพลังงานที่ยังทรงตัวในระดับสูง รวมถึงปัญหาเงินเฟ้อที่บั่นทอนกำลังซื้อในประเทศ ขณะที่สงครามรัสเซีย-ยูเครนยังคงยืดเยื้อ เศรษฐกิจโลกที่มีความไม่แน่นอน รวมถึงความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ยังส่งปัจจัยเสี่ยงต่อภาคการส่งออกของไทย

โดยมีข้อเสนอแนะต่อภาครัฐ โดยต้องการให้มีมาตรการดูแลต้นทุนการผลิตให้ผู้ประกอบการ อาทิ ชะลอการปรับขึ้นค่าไฟฟ้าให้ไม่เกิน 4.72 บาท ต่อหน่วย ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการมีการลงทุนใช้พลังงานหมุนเวียนภายในโรงงาน เพื่อลดค่าไฟฟ้าในช่วง On Peak อย่างเป็นรูปธรรม เช่น การอำนวยความสะดวกในการขออนุญาตต่างๆ ที่เกี่ยวข้องการติดตั้งโซล่าเซลล์, ปรับปรุงกฎหมายให้โรงงานสามารถติดตั้งโซล่าเซลล์เพื่อผลิตไฟฟ้าได้มากกว่า 1 MW

โดยไม่ต้องขอใบอนุญาต รง.4, มาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ออกมาตรการส่งเสริม Soft power เพื่อกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยมีการใช้สินค้าและบริการของไทย เพื่อช่วยขยายโอกาสสินค้าไทยในตลาดโลกผ่านการท่องเที่ยว โดยคาดว่าช่วง High Season จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวไม่ต่ำกว่า 1.5 ล้านคนต่อเดือน และในปี 2566 คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเติบโตมาอยู่ในระดับ 21 ล้านคน

ขอขอบคุณ
แหล่งที่มา : INNnews


แชร์ข่าวนี้