5 การลงทุนยอดนิยมในปี 2023

108
แชร์ข่าวนี้

ในปี 2566 การเลือกหาการลงทุนที่ดีที่สุดอาจเป็นเรื่องยาก เนื่องจากตลาดการลงทุนค่อนข้างมีความหลากหลายและซับซ้อน  ล่าสุด OctaFX จึงได้วิเคราะห์รูปแบบการลงทุนยอดนิยมหลายรายการ โดยเรียงตามระดับความเสี่ยง ความซับซ้อน และจำนวนเงินลงทุนขั้นต่ำเพื่อช่วยให้คุณสามารถเลือกรูปแบบการลงทุนที่เหมาะสมกับคุณที่สุดได้

การลงทุนเป็นที่นิยมมากขึ้นทั่วโลกทุกปี คาดว่าจำนวนนักลงทุนในสินทรัพย์ประเภทต่าง ๆ จะเพิ่มขึ้นอยู่อย่างต่อเนื่อง นักลงทุนที่มีศักยภาพหลายคนพบว่าการเลือกประเภทการลงทุนที่เหมาะกับความต้องการของตนเองนั้นเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก โดยรายการต่อไปนี้เป็นรูปแบบของการลงทุนที่ได้รับความนิยมมากที่สุด

5 การลงทุนยอดนิยมในปี 2023

image4

1. การซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา

  • ความเสี่ยง: ปานกลาง
  • ความซับซ้อน: ปานกลาง
  • ความเร็วในการจ่ายผลตอบแทน: เร็ว
  • การควบคุมในการลงทุน: สูง
  • งบลงทุน: น้อย

การซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา เป็นการซื้อและขายสกุลเงินในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ โบรกเกอร์บางรายยังมีการซื้อขาย สัญญาซื้อขายส่วนต่าง (CFD) เช่น สินค้าโภคภัณฑ์ ดัชนี หุ้น และสกุลเงินดิจิทัลต่าง ๆ อีกด้วย แม้ว่าการการซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา จะต้องอาศัยความรู้ในตลาดและกลยุทธ์การเทรด แต่งบการลงทุนนั้นค่อนข้างเป็นไปได้สำหรับนักลงทุนที่มีงบน้อยถึงปานกลาง ยิ่งไปกว่านั้น ตัวเลือกการลงทุนนี้ช่วยให้คุณสามารถจำกัดความเสี่ยงของคุณได้หลายวิธี (รวมถึงคำสั่ง Stop Loss และ Take Profit) ที่จะช่วยให้พอร์ตสามารถอยู่รอดได้แม้ในช่วงเวลาที่ตลาดผันผวน เนื่องจากการเปิดการซื้อขายใน การซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา นั้นง่ายกว่าการเทรดหุ้นทั่วไป คุณจึงสามารถทำกำไรได้แม้ในขณะที่ตลาดทั้งหมดอยู่ในช่วงขาลง สิ่งนี้ทำให้ การซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา น่าสนใจมากสำหรับนักลงทุนที่ต้องการควบคุมสินทรัพย์ของตนเองอย่างเต็มที่ตลอดเวลา นอกจากนี้โดยปกติของตลาดที่มีความผันผวนอย่างรวดเร็วนั้น จะมีตัวช่วยที่ชี่อว่าการใช้เลเวอเรจ ที่จะทำให้สามารถเพิ่มผลตอบแทนและเร่งผลตอบแทนจากการลงทุนได้

image1

2. บัญชีออมทรัพย์

  • ความเสี่ยง: ต่ำมาก
  • ความซับซ้อน: ต่ำมาก
  • ความเร็วในการจ่ายผลตอบแทน: ช้า
  • การควบคุมในการลงทุน: ต่ำ
  • งบลงทุน: ปานกลางไปถึงสูง

บัญชีออมทรัพย์เป็นบัญชีธนาคารประเภทหนึ่งที่อนุญาตให้บุคคลทั่วไปสามารถฝากเงินที่ธนาคารและรับดอกเบี้ย แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยจะต่ำ แต่ก็ถือว่าปลอดภัยและเชื่อถือได้ นักลงทุนมักจะใช้บัญชีออมทรัพย์สำหรับสร้างกองทุนฉุกเฉิน การออมเพื่อเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจง และการเก็บเงินไว้ใช้จ่ายในอนาคต บัญชีออมทรัพย์จะไม่สร้างผลกำไรที่จับต้องได้ เว้นแต่จะมีการลงทุนด้วยเงินจำนวนมาก ทั้งนี้บัญชีออมทรัพย์จะช่วยปกป้องเงินของคุณจากภาวะเงินเฟ้อได้ อย่างไรก็ตามนักลงทุนจะไม่สามารถควบคุมอัตราดอกเบี้ยที่ผันแปรตามจำนวนเงินในบัญชีออมทรัพย์ของตนได้

image5

3. หุ้น

  • ความเสี่ยง: สูง
  • ความซับซ้อน: สูง
  • ความเร็วในการจ่ายผลตอบแทน: ปานกลาง
  • การควบคุมในการลงทุน: ปานกลาง
  • งบลงทุน:  ปานกลาง

การลงทุนในหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการซื้อหุ้นของบริษัทและถือไว้เพื่อทำกำไรจากมูลค่าที่เพิ่มขึ้น ราคาหุ้นสามารถผันผวนได้มากตามสภาวะตลาดและผลประกอบการของบริษัท หุ้น ถือเป็นหนึ่งในการลงทุนที่มีความซับซ้อนสูง โดยนักลงทุนต้องศึกษาข้อมูลบริษัทแต่ละแห่งและประเมินประสิทธิภาพทางการเงินของบริษัทเหล่านั้น

ความเร็วของการลงทุนในหุ้นจนได้รับการจ่ายผลตอบแทนนั้นอาจแตกต่างกันไปตามผลประกอบการของบริษัทและสภาวะตลาด ในบางกรณี นักลงทุนสามารถรับรู้ผลกำไรจำนวนมากในช่วงเวลาสั้น ๆ ในขณะที่บางกรณีอาจใช้เวลาหลายปีกว่าจะประสบผลสำเร็จ นักลงทุนสามารถควบคุมการลงทุนในหุ้นได้มาก เนื่องจากพวกเขาเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะลงทุนในบริษัทใดบ้าง

image3

4. กองทุนรวม

  • ความเสี่ยง: ปานกลาง
  • ความซับซ้อน: ต่ำ
  • ความเร็วในการจ่ายผลตอบแทน: ช้า
  • การควบคุมในการลงทุน: ต่ำ
  • งบลงทุน: สูง

กองทุนรวมรวบรวมเงินจากนักลงทุนจำนวนมากเพื่อลงทุนในหลักทรัพย์ต่าง ๆ รวมถึงหุ้น พันธบัตร และสินทรัพย์อื่น ๆ แม้ว่าโดยปกติแล้วพอร์ตการลงทุนของกองทุนรวมจะมีความหลากหลายในตลาดและอุตสาหกรรม แต่การลงทุนในกองทุนรวมเหล่านี้ยังคงมีความเสี่ยงอยู่บ้าง หากหลักทรัพย์ที่ถือโดยกองทุนมีมูลค่าลดลง คุณอาจสูญเสียเงินบางส่วนหรือทั้งหมดที่คุณลงทุนไปได้ กองทุนรวมมีความซับซ้อนมากกว่าบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ เนื่องจากคุณต้องเลือกกองทุนตามวัตถุประสงค์การลงทุน และอาจมีค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

กองทุนรวมอาจเป็นวิธีที่ต้องใช้งบประมาณสูงในการลงทุน โดยกองทุนบางแห่งกำหนดขั้นต่ำในการซื้อไว้ที่หลายพันดอลลาร์ และยังจ่ายผลตอบแทนออกค่อนข้างช้า เนื่องจากผลตอบแทนถูกสร้างขึ้นจากการเพิ่มทุนและการจ่ายเงินปันผลในช่วงเวลาที่นานออกไประดับการควบคุมสำหรับการลงทุนประเภทนี้จึงค่อนข้างต่ำ

image2

5. อสังหาริมทรัพย์

  • ความเสี่ยง: สูง
  • ความซับซ้อน: สูงมาก
  • ความเร็วในการจ่ายผลตอบแทน: ช้ามาก
  • การควบคุมในการลงทุน: ปานกลาง
  • งบลงทุน: สูงมาก

การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เกี่ยวข้องกับการซื้อและจัดการที่ดิน แฟลต หรือบ้านเพื่อปล่อยเช่าหรือรอให้มูลค่าเพิ่มขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป การลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์มีความซับซ้อนสูง และคุณต้องวิจัยตลาดอย่างละเอียด ดูแลรักษาทรัพย์สินของคุณ และจัดการผู้เช่า มูลค่าและราคาค่าเช่าของอสังหาริมทรัพย์อาจลดลงเมื่อเวลาผ่านไปหรือลดลงอย่างกะทันหันเมื่ออสังหาริมทรัพย์เกิดฟองสบู่แตก การลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์โดยทั่วไปมีราคาแพง เนื่องจากการซื้ออสังหาริมทรัพย์ต้องใช้เงินทุนจำนวนมาก และมักเกี่ยวข้องกับการก่อหนี้ผ่านการจำนอง

ระดับการควบคุมอสังหาริมทรัพย์มักจะอยู่ในระดับปานกลาง เนื่องจากคุณสามารถเลือกได้ว่าจะทำอย่างไรกับอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ในมือ คุณสามารถตัดสินใจเกี่ยวกับการกำหนดราคาเช่าด้วยตนเองได้ อย่างไรก็ตามอาจเกิดความเสียหายค่อนข้างสูงมากในช่วงตลาดขาลงและช่วงอสังหาริมทรัพย์เกิดฟองสบู่แตก

ไม่ว่าคุณจะเลือกตัวเลือกการลงทุนแบบใด สิ่งสำคัญคือต้องพัฒนานิสัยในการกระจายการลงทุนของคุณอยู่เสมอโดยไม่ต้องคำนึงถึงความสำเร็จของพอร์ตโฟลิโอของคุณในขณะนั้น การคำนึงถึงเงินฝากขั้นต่ำ ความเร็วของการลงทุนที่จะชำระคืน การควบคุมของคุณ และระดับความเป็นอิสระที่การลงทุนจะส่งผลให้คุณจากทุกสถานการณ์ในตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่ปั่นป่วนเช่นนี้ อย่าลืมศึกษาวิธีการลงทุนใหม่ๆ อยู่เสมอและพัฒนากลยุทธ์การลงทุนโดยใช้เทคนิคการบริหารความเสี่ยงที่หลากหลายด้วยเช่นกัน

ขอขอบคุณ
แหล่งที่มา : sanook


แชร์ข่าวนี้