ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2566 ประกาศผลอุทธรณ์ รับเงินสูงสุด 2,700 บาท

5965
แชร์ข่าวนี้

ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2566 ประกาศผลอุทธรณ์ รอบเก็บตก คนผ่านเกณฑ์รีบเช็ก และยืนยันตัวตนเพื่อขอรับเงินย้อนหลังสูงสุด 2,700 บาท

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง โฆษกกระทรวงการคลัง ระบุ หลังจากที่กระทรวงการคลัง ได้ประกาศผล ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2566 รอบอุทธรณ์ เมื่อวันที 12 มิถุนายน 2566 ที่ผ่านมานั้น ต่อมากระทรวงการคลัง ได้ตรวจสอบพบ ผลการพิจารณาคุณสมบัติด้านอสังหาริมทรัพย์รอบอุทธรณ์ยังไม่สมบูรณ์

ดังนั้น คณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม จึงได้มีการตรวจสอบอีกครั้ง และได้มีการประกาศผลการพิจารณาคุณสมบัติของผู้ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ กลุ่มดังกล่าวเพิ่มเติม เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2566 และวันที่ 28 สิงหาคม 2566 และพบผู้ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติรอบอุทธรณ์เพิ่มเติม จำนวน 1,830 ราย และ 114 ราย

ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2566 ผู้ที่ยื่นขออุทธรณ์ และดำเนินการแล้วเสร็จ ตามขั้นตอนการอุทธรณ์ผลการพิจารณาคุณสมบัติบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ภายในวันที่ 1 พฤษภาคม 2566

วิธีตรวจสอบ ผลอุทธรณ์การลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ทำได้ 3 ช่องทาง ดังนี้

  1. ตรวจสอบผลการพิจารณาคุณสมบัติด้วยตนเอง ผ่านทางเว็บไซต์ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ https://welfare.mof.go.th ได้ตั้งแต่เวลา 06.00 น. ถึง 23.00 น. ของทุกวัน
  2. ตรวจสอบผลการพิจารณาคุณสมบัติผ่านหน่วยงานรับลงทะเบียนทั้ง 7 หน่วยงาน ได้แก่
    • สาขาของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)
    • ธนาคารออมสิน
    • ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (ธนาคารกรุงไทยฯ)
    • สำนักงานคลังจังหวัดทั้ง 76 จังหวัดทั่วประเทศ
    • ที่ว่าการอำเภอทั้ง 878 อำเภอทั่วประเทศ
    • สำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร ทั้ง 50 เขต
    • ศาลาว่าการเมืองพัทยา
  3. โทรศัพท์สอบถามได้ที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง และ Call Center โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในวันและเวลาทำการของแต่ละหน่วยงาน

ผู้อุทธรณ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ตรวจสอบแล้วพบว่าผ่านการพิจารณาคุณสมบัติ ในรอบอุทธรณ์เพิ่มเติม ขอให้ดำเนินการ ดังนี้

  1. ผู้ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติดำเนินการยืนยันตัวตนได้ที่ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เท่านั้น โดยจะต้องนำบัตรประจำตัวประชาชนอเนกประสงค์ (Smart Card) เพื่อใช้ในการยืนยันตัวตนด้วย ซึ่งการให้บริการยืนยันตัวตนจะเป็นไปตามวันและเวลาทำการของธนาคาร
  2. เมื่อยืนยันตัวตนเสร็จเรียบร้อยแล้วจะสามารถตรวจสอบสถานะการยืนยันตัวตนของตนเองผ่านทางเว็บไซต์ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ https://welfare.mof.go.th หรือติดต่อสอบถามเจ้าหน้าที่หน่วยงานรับลงทะเบียนทั้ง 7 หน่วยงาน หรือโทรศัพท์สอบถามได้ที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามเวลาทำการของแต่ละหน่วยงานได้ในวันถัดไป
  3. ผู้ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติดำเนินการผูกบัญชีพร้อมเพย์กับหมายเลขประจำตัวประชาชนเพื่อเป็นการเตรียมการรองรับการรับสิทธิสวัสดิการ โดยสามารถผูกบัญชีพร้อมเพย์กับธนาคารใดก็ได้ การผูกบัญชีพร้อมเพย์ไว้ล่วงหน้า จะทำให้ผู้ได้รับสิทธิสามารถรับสิทธิสวัสดิการในกรณีที่ภาครัฐมีสวัสดิการที่จะโอนเข้าบัญชีในอนาคตได้อย่างสะดวกรวดเร็ว
  4. ผู้ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติรอบอุทธรณ์เพิ่มเติมทั้ง 2 รอบสามารถดำเนินการยืนยันตัวตนตามกรอบระยะเวลาที่กำหนดเพื่อเริ่มใช้สิทธิสวัสดิการแห่งรัฐตามที่กระทรวงการคลังกำหนด โดยมีรายละเอียด วันที่ยืนยันตัวตน วันเริ่มใช้และสิทธิย้อนหลัง ดังนี้

    4.1. ผู้ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติรอบอุทธรณ์เพิ่มเติมที่ประกาศผลเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2566 และดำเนินการยืนยันตัวตนภายในวันที่ 26 กรกฎาคม 2566 และตรวจสอบพบว่า ผ่านการยืนยันตัวตน (e-KYC) จะสามารถใช้สิทธิสวัสดิการผ่านบัตรประจำตัวประชาชนได้ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2566

แต่หากผู้ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติยืนยันตัวตน หลังวันที่ 26 กรกฎาคม 2566 จะสามารถใช้สิทธิสวัสดิการแห่งรัฐตามที่กระทรวงการคลังกำหนด โดยมีรายละเอียดวันที่ยืนยันตัวตน วันเริ่มใช้สิทธิได้ และสิทธิที่ได้ย้อนหลังดังนี้
114-2566(info)1

4.2. ผู้ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติรอบอุทธรณ์เพิ่มเติมที่ประกาศผลเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2566 และดำเนินการยืนยันตัวตนภายในวันที่ 28 สิงหาคม – 26 กันยายน 2566 และตรวจสอบพบว่า ผ่านการยืนยันตัวตน (e-KYC) จะสามารถใช้สิทธิสวัสดิการผ่านบัตรประจำตัวประชาชนได้ตั้งแต่ วันที่ 1 ตุลาคม 2566

แต่หากผู้ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติยืนยันตัวตนหลังวันที่ 26 กันยายน 2566 จะสามารถใช้สิทธิสวัสดิการแห่งรัฐตามที่กระทรวงการคลังกำหนด โดยมีรายละเอียดวันที่ยืนยันตัวตน วันเริ่มใช้สิทธิได้ และสิทธิที่ได้ย้อนหลังดังนี้114-2566(info)2

ทั้งนี้ สำหรับวงเงินสิทธิสวัสดิการย้อนหลัง จะได้เฉพาะวงเงินในส่วนของการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคจากร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น และร้านอื่น ๆ ตามที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด (ร้านธงฟ้าฯ) (จำนวน 300 บาทต่อคนต่อเดือน) เท่านั้น และกรณีมีวงเงินคงเหลือจะไม่มีการสะสมไปในเดือนถัดไป

ขอขอบคุณ
แหล่งที่มา : sanook


แชร์ข่าวนี้