คาดนักท่องเที่ยวแค่ 10 ล้านคน ประเมินกรณีเลวร้ายสุดไวรัสลากยาวถึงสิ้นปี

231
แชร์ข่าวนี้

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ประเมินผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด19 ออกเป็น 3 ระยะ ได้แก่

1.หากสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ภายในเดือน ก.ค.นี้ คาดว่าการเติบโตของจำนวนนักท่องเที่ยวในปี 2563 จะทำได้ที่ 27 ล้านคน ลดลง 32.15% หรือ 12.8 ล้านคน เทียบกับปี 2562 ที่มีจำนวนนักท่องเที่ยว 39.8 ล้านคน จะมีรายได้ 1.31 ล้านล้านบาท ลดลง 626,000 ล้านบาท จากปี 2562 มีรายได้ 1.93 ล้านล้านบาท

2.หากคุมได้ในเดือนกันยายนนี้ จำนวนนักท่องเที่ยวจะอยู่ที่ 20 ล้านคน และ 3.หากโควิด-19 ลากยาวจนถึงสิ้นปี 2563 นักท่องเที่ยวต่างชาติทำได้เพียง 10 ล้านคน ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่หากทำได้ก็เก่งแล้ว จากในเดือน ม.ค. และ ก.พ. มีต่างชาติเขามารวม 5.85 ล้านคน

ส่วนเดือน มี.ค.ลดลงอย่างรุนแรง โดยล่าสุดตั้งแต่วันที่ 1-16 มี.ค.2563 มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเพียง 730,000 คน ลดลง 60.84% สร้างรายได้ 37,037 ล้านบาท นักท่องเที่ยวที่เข้ามามากสุดคือ รัสเซีย 96,001 คน มาเลเซีย 88,120 คน ลาว 73,188 คน ส่วนชาติที่เข้ามาน้อยสุดคือ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ลดลง 99.94% ซาอุดีอาระเบีย ลดลง 96.61% คูเวต ลดลง 95.61% ส่วนชาวจีนเข้ามาไทยเหลือเพียง 150-160 คนเท่านั้น และส่วนใหญ่เป็นนักธุรกิจ ที่เป็นนักท่องเที่ยวจริงๆ ไม่เหลือแล้ว

ขณะนี้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติที่พักอยู่ในไทย ไม่ต่ำกว่า 500,000 คนที่เข้ามาแล้วไม่ยอมกลับประเทศส่วนมากเป็นสหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกา รัสเซีย อังกฤษ เยอรมัน สาเหตุมาจากความกังวลในเรื่องมาตรการคัดกรองของประเทศตนเอง ทำให้นักท่องเที่ยวที่มีกำลังในการใช้จ่าย หรืออยู่ในวัยเกษียณอายุ อยากพักผ่อนต่อ เพราะมีความพร้อมหลายด้าน อาทิ 1.มีหมอที่สามารถดูแลได้ 2.ไม่ถูกรังเกียจเพราะเข้ามาก่อนเกิดโรคระบาด 3.กังวลว่าหากกลับประเทศแล้วจะได้รับการรักษาที่ดีหรือไม่ เพราะมีกระแสข่าวออกมาว่า หลายประเทศจะไม่รักษาผู้ติดเชื้อโควิด-19 อย่างไรก็ตาม คนกลุ่มนี้บางส่วนอยู่เกินวีซ่า ทางกระทรวงมหาดไทยจึงจะหารือกับสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) เพื่อพิจารณาขยายเวลาให้ แบบไม่มีโทษ


แชร์ข่าวนี้