สาวเครียดไม่มีเงินเลี้ยงลูก-ผัวติดคุก ขาดรายได้เพราะโควิด คิดสั้นผูกคอตายในส้วม

218
แชร์ข่าวนี้

(20 เม.ย.63) 14.00 น. ตำรวจ สภ.กำพี้ เดินทางไปตรวจสอบเหตุคนผูกคอหวังฆ่าตัวตายแต่ไม่สำเร็จและได้รับบาดเจ็บ ที่บริเวณบ้านไม่มีเลขที่ ท้ายหมู่บ้านเหล่ากา ต.กำพี้ อ.บรบือ จ.มหาสารคาม 

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่ พบว่าสถานที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียวที่ยังสร้างไม่เสร็จ จากการสอบถามทราบว่าผู้บาดเจ็บ คือ น.ส.ไอยรดา อายุ 26 ปี พักอาศัยอยู่ที่บ้านหลังเกิดเหตุ ใช้เชือกไนล่อนผูกคอตัวเองกับขื่อในห้องน้ำภายในบ้าน แต่มีญาติมาพบเหตุเหตุการณ์ก่อน จึงเข้าช่วยเหลือด้วยการอุ้มและนำร่างลงมา และแจ้งเหตุให้เจ้าหน้าที่กู้ชีพทราบ ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลอำเภอบรบือ จ.มหาสารคาม ซึ่งในการตรวจที่เกิดเหตุ ไม่พบร่องรอยการต่อสู้ใดๆ แต่อย่างใด

หลังนำส่งโรงพยาบาล ผู้บาดเจ็บได้เสียชีวิตในเวลาต่อมาเนื่องจากขาดอากาศหายใจเป็นเวลานาน จนเป็นเหตุให้เสียชีวิต ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สันนิฐานถึงสาเหตุที่ น.ส.ไอยรดา ทำการผูกคอกับขือฆ่าตัวตาย น่าจะมีสาเหตุจากความเครียดปัญหาชีวิต ไม่มีเงินซื้อนมให้ลูก จึงได้ตัดสินใจก่อเหตุดังกล่าว 

ด้านนางสมปอง มารดาผู้ตาย เล่าว่า ผู้เสียชีวิตคือบุตรสาวของตน มีสามีซึ่งปัจจุบันถูกจำคุกในคดียาเสพติด จึงทำให้ผู้ตายไม่มีรายได้ต้องอาศัยอยู่กับลูกชาย 2 คน คนโตอายุ 6 ปี คนเล็ก 6 เดือน ที่ผ่านมาเคยไปรับจ้างขายของ แต่เนื่องจากพิษไวรัสโควิด-19 ทำให้ผู้คนไม่ค่อยออกมาจับจ่ายใช้สอย รายได้จึงหดหายไป แต่รายจ่ายที่มีทั้งต้องเลี้ยงดูลูกซึ่งกำลังโตและภาระรายจ่ายภายในบ้านยังมีอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีเงินที่กู้ยืมมาที่ต้องผ่อนจ่ายทุกเดือน จนล่าสุดเงินจะซื้อข้าวและน้ำให้ลูกกินยังจะไม่มี ซึ่งนี้คงเป็นสาเหตุที่ทำให้ลูกสาวเป็นกังวลและหาทางออกไม่ได้ จึงตัดสินใจไปใช้เชือกผูกคอตายในห้องน้ำ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

ล่าสุด นายปรีชาพงศ์ ทองมี นายอำเภอบรบือ ได้ให้การช่วยเหลือเบื้องตันแก่ครอบครัวโดยได้มอบเงินช่วยเหลือ จำนวน 3,000 บาท และได้ดำเนินการให้ผู้ใหญ่บ้าน และกำนันตำบลกำพื้ ได้ระดมจัดหาเครื่องอุปโภค-บริโภค นมผงสำหรับทารกและนมกล่องและเงินสดมอบให้ครอบครัวผู้เสียชีวิตเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในบางส่วนแล้วเป็นเบื้องต้น โดยบุตรทั้งสองคนปัจจุบันมารดาของผู้เสียชีวิตได้อุปการะ ซึ่งในการช่วยเหลือในอนาคต กำนันตำบลกำพื้ และนายกองค์การบริหารส่วนตำบลกำพื้  ชมรมกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง (กทบ.) รวมทั้งประชาชนจะได้หามาตรการช่วยเหลือ เช่น การบริจาคทรัพย์ เพื่อช่วยเหลือครอบครัวนี้ต่อไป  


แชร์ข่าวนี้